ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)
เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองโอซาก้าและเป็นที่เที่ยวยอดฮิตอันดับต้นๆ ที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปโอซาก้าต้องไม่พลาด ซึ่งการมาเที่ยวโอซาก้าในช่วงเดือน มิถุนายน – สิงหาคม จะเป็นช่วงฤดูร้อน ซึ่งอากาศค่อนข้างร้อน ใกล้เคียงกับบ้านเราเลยทีเดียว เดินกันทีนี่อาจจะเหงื่อท่วมได้ แต่ข้อดีก็คือ ราคาตั่วเครื่องบินช่วงนี้ราคาจะถูก และ เนื่องจากเป็นเหมือนช่วง low season ที่ญี่ปุ่นจึงจะมีการจัดช่วงลดราคาสินค้าทั้งประเทศไว้ในช่วงเดือน กรกฎาคม เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้
เวลาทำการ: 9.00 – 17.00น. (เปิดให้เข้าชมได้ถึง 16.30น. ในบางฤดูกาลจะเปิดให้เข้าชมนานกว่าปกติ)
ค่าเข้าชม: 600 เยน หรือ ฟรี ถ้ามีบัตร Osaka Amazing Pass
วันปิดทำการ: 28 ธันวาคม – 1 มกราคม
วิธีเดินทาง: สถานีที่ใกล้ตัวปราสาทที่สุดคือสถานีรถไฟใต้ดินและ JR Station Morinomiya
ปัจจุบันปราสาทโอซาก้าสูงถึง 55 เมตร มี 5 ส่วน 8 ชั้น เครื่องประดับหลังคาและภาพเสือบนกำแพงตัวปราสาทและหลายๆ ส่วนลงทองสีอร่าม สวยงามและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกสำคัญของประเทศ
กาเดินทางโดยขึ้นรถไฟใต้ดินจากสถานี Namba Station ด้วยบัตร Osaka Amazing Pass สำหรับวิธีขึ้นรถก็ไม่ยาก คือใช้ Google maps ช่วย เมื่อลงรถใต้ดินแล้วให้เดินผ่านหลังตึกมาตามทางเล็กๆ
เมื่อเจอทางม้าลายแบบนี้ แปลว่ามาถูกทางแล้ว เราจะสามารถเห็นปราสาทโอซาก้าจากจุดนี้ได้
เดินข้ามถนนมาเราก็จะเห็นตัวปราสาท ในที่สุดก็เจอ Landmark สำคัญซะที ที่สำคัญวันนี้ฝนไม่ตก แต่แดดเปรี้ยงเลย
เดินไปถ่ายรูปตัวปราสาทไปครับ เพลิดเพลิน เสียดายอากาศร้อนไปนิด ไว้มีโอกาสจะมาช่วงมีซากุระบ้าง
เดินร่วมหนึ่งกิโลครับ ผ่านประตูใหญ่ๆเข้ามา
ถ่ายไปเรื่อยครับ
ถึงสะพานอันนี้แปลว่าเข้าใกล้ตัวปราสาทโอซาก้าแล้วครับ สะพานนี้คนถ่ายรูปกันรัวๆ ย้อนแสงพอสมควรถ้ามาช่วงบ่าย
รูปข้างล่างนี้ถ่ายตอนเดินเข้ามาข้างๆตัวปราสาทแล้วครับ
บริเวณรอบๆปราสาท มีร้านขายของมากมาย ไม่ต้องกลัวอดตายครับ ไอศครีมรสต่างๆ น้ำดื่ม อาหาร ของทานเล่นมีเพียบครับ แต่บางอย่างอาจจะราคาสูงหน่อย .. ผมซื้อน้ำอัดลมแก้วละ 500 เยน แอบแพง .. ถ้าใครพกน้ำหรือขนมมาเองก็ดีครับ
ก่อนเดินเข้าตัวปราสาทถ่ายภาพจากด้านหน้าทางเข้าอีกซักหน่อย
ตัดภาพเข้ามาด้านในของปราสาทโอซาก้าเลยนะครับ มีทั้งลิฟท์ และบันได .. แต่ใครจะขึ้นลิฟท์ก็ต้องรอหน่อย ไม่นานครับ ส่วนผมขอใช้บริการลิฟท์ขึ้นไปชั้นบนสุดก่อนแล้วชั้นอื่นๆเดินลงมาเรื่อยๆดีกว่า
บนหอคอยชั้น 8 ของยอดปราสาทเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองทิวทัศน์โดยรวมของเมืองโอซาก้าได้อย่างชัดเจน
ค่อยๆเดินลงมาแต่ละชั้นจะจัดแสดงเรื่องราวของปราสาทเอาไว้ครับ … ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ครับ เดินชมอย่างเดียว T-T
เดินชมจนพอใจ ตอนเดินออกจากปราสาทมา จะมีศาลเจ้าโฮโกกุ Hokoku-Jinja Shrine อยู่ใกล้ๆ และเดินถัดไม่ไกลนัก (1.1 กิโล)ไปก็มี Osaka Museum of History ซึ่งรวบรวมประวัติต่างๆของเมืองโอซาก้าให้เราศึกษา และเราสามารถจะมองเห็นปราสาทโอซาก้าได้จากชั้นบนของพิพิธภัณฑ์นี้
กำแพงตรงทางออกจากปราสาทโอซาก้าครับ
เรื่องและภาพโดย สวาเก้น
อะกิฮาบาระ (Akihabara) หรือที่เรียกสั้นๆ ว่าอะกิบะ (Akiba) นั้น เป็นย่านที่เต็มไปด้วยร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าตลอดจนเทคโนโลยีอันทันสมัยมากมาย ปัจจุบันย่านนี้ขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แล้ว ที่นี่ยังเป็นแหล่งคอมพิวเตอร์, กล้องถ่ายรูป, เกมส์, อนิเมชั่น, ฟิกเกอร์ โมเดล (หุ่นประกอบ), การ์ตูน ตลอดจนเป็นสวรรค์ของเหล่าบรรดาโอตาคุทั้งหลายอีกด้วย
สำหรับห้างชื่อดังยอดนิยมที่สุดของย่านนี้เห็นจะเป็น Yodobashi (www.yodobashi-akiba.com) ที่มีสินค้าจำหน่ายครบภายในตึกเดียว ตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าล้ำๆ, กล้อง, เครื่องเสียง, เกมส์, ของเล่น, โทรศัพท์มือถือ, คอมพิวเตอร์, อุปกรณ์เสริมต่างๆ, ไปจนถึงเครื่องสำอางสำหรับสาวๆ ซึ่ง Yodobashi ที่อะกิฮาบาระนี้มีถึง 8 ชั้น ให้ช้อปกันอย่างจุใจ และเป็นเสมือนแลนด์มาร์กของย่านไปในตัวด้วย ที่สำคัญหนึ่งในลูกค้าคนสำคัญของที่นี่ก็คือคนไทยนี่เองซึ่งเสียงประชาสัมพันธ์ภายในห้างนั้นยังมีเวอร์ชั่นภาษาไทยอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีร้านดังๆ มากมายซึ่งบางร้านยังขายสินค้าปลอดภาษีอีกด้วย ร้านดังในย่านนี้ก็ได้แก่ Laox (www.laox.co.jp), sofmap (www.sofmap.com), เป็นต้น แต่สำหรับเหล่าโอตาคุบรรดาร้านรวงที่เกียวกับอนิเมชั่นและการ์ตูนต่างๆ นั้นดูจะเป็นเหมือนแหล่งแฮงค์เอาท์ของพวกเขาเป็นอย่างดีทีเดียว อาทิ Radio Kaikan (www.radiokaikan.jp) ตึก 9 ชั้นที่เต็มไปด้วยฟิกเกอร์การ์ตูนมากมาย, Kotobukiya (main.kotobukiya.co.jp) ร้านจำหน่ายฟิกเกอร์และสารพัดข้าวของจากการ์ตูนชื่อดัง, Tokyo Anime Center (www.animecenter.jp) ศูนย์กลางของอนิเมะญี่ปุ่นที่มีเรื่องราวใหม่ๆ มา update เสมอๆ, animate (www.animate.co.jp) จำหน่ายทุกสิ่งทุกอย่างที่เกียวกับอนิเมะ เป็นต้น
สำหรับสาวกกันดั้มที่นี่ก็ยังมี Gundum Café (g-cafe.jp) คาเฟ่เก๋ๆ และกาแฟคุณภาพเยี่ยมที่แต่งหน้าฟองนมด้วยสัญลักษณ์กันดั้ม, อีกสาวกที่มีอะกิฮาบาระเป็นฐานทัพก็คือเหล่าแฟนคลับของ AKB48 ซึ่งที่นี่เป็นที่ตั้งของ AKB48 Café & Shop (akb48cafeshops.com/akihabara) ให้บรรดาแฟนคลับทั้งหลายได้แฮงค์เอาท์กันอีกด้วย
อะกิฮาบาระ (Akihabara)
ที่ตั้ง : ย่านอะกิฮาบาระ, เขตชิโยดะ, โตเกียว
เปิด-ปิด : ทุกวัน 10.00-22.00 น. (เวลาโดยเฉลี่ย / เวลาปิดเปิดที่แน่นอนขึ้นอยู่กับแต่ละร้านค้าอีกที)
วิธีเดินทาง :
>วิธีที่ 1 : นั่งรถไฟ JR Line สายวงกลม Yamanote Line (สีเขียว), สาย Keihin-Tohoku Line (สายสีฟ้า) ลงสถานี Akihabara
>วิธีที่ 2 : นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย H-Hibiya Line (สีเทา) ลงสถานี H15-Akihabara