Ad
Ad
Ad
3 Results

map

Search

 

เมืองฮาโกเน่ (Hakone) เป็นส่วนหนึ่งของ Fuji-Hakone-Izu National Park อยู่ห่างจากโตเกียวไปแค่ 100 กิโลเมตร เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวต้องแวะไปให้ได้สักครั้ง
tk-hakone-map
ฮาโกเน่ มีชื่อเสียงในเรื่องน้ำพุร้อน และธรรมชาติที่สวยงาม ที่มีฉากหลังเป็นวิวภูเขาไฟฟูจิ และไข่กัมะถัน นอกจากจะโด่งดังในหมู่นักท่องเที่ยวแล้ว ฮาโกเน่ยังเป็นสถานที่ที่คนญี่ปุ่นนิยมไปพักผ่อน หรือหลีกหนีความวุ่นวานจากโตเกียว เพราะการเดินทางสะดวกรวดเร็ว สามารถเที่ยวได้จบภายในหนึ่งวัน
mix-hakone
ว่ากันว่าจะมาเที่ยวฮาโกเน่ต้องเดินทางด้วยยานพาหนะให้ครบห้าอย่าง รถไฟด่วน รถไฟ รถราง กระเช้าลอยฟ้า นั่งเรือล่องทะเลสาบ และจบที่รถบัส ซึ่งการเดินทางทั้งหมดเชื่อมต่อถึงกันเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเดียวที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวทั้งญี่ปุ่นและต่างชาติ สะดวกสบาย รับรองไม่มีหลงแน่นอน
fu04
hakone_cruise_mt_ashie
IMG_2601
เรือที่เป็นสัญลักษณ์ของฮาโกเน่
IMG_2596
hakone-hot-spring 6215256412_ed5ecc35c1_o
วิวจากท้ายเรือในทะเลสาบฮาโกเน่
การเดินทางทั้งหมดสามารถซื้อตัวที่เรียกว่า Hakone Free Pass ได้ ซึ่งรวมต่าเดินทางทุกอย่างตั้งแต่รถไฟจากโตเกียว
HakoneFreePass
ลองเปรียบเที่ยบราคาตัวฮาโกเน่ฟรีพาสกับการซื้อตั๋วแยกดูนะคะ
ตั๋วอำนวยความสะดวกให้ได้ท่องเที่ยวไปรอบๆฮาโกเน่
ซึ่งจะคุ้มค่ามากยิ่งขึ้นเมื่อซื้อและเริ่มใช้ตั๋วที่สถานีชินจูกุ
นักท่องเที่ยวสามารถซื้อตั๋วนี้จาก สถานีชินจุกุสายโอดะคิว พร้อมส่วนลดอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ฮาโกเน่ฟรีพาสสามารถหาซื้อได้ตั้งแต่ 1 เดือนล่วงหน้าก่อนวันโดยสาร โดยซื้อได้ที่ทุกสถานีของรถไฟสายโอดะคิว
* สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการท่องเที่ยวโอดะคิว ชินจูกุ โทร 03-5321-7887, 8:00 ถึง 18:00 ตลอดปี ไม่มีวันหยุด

ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)

ปราสาทโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น

เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองโอซาก้าและเป็นที่เที่ยวยอดฮิตอันดับต้นๆ ที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปโอซาก้าต้องไม่พลาด ซึ่งการมาเที่ยวโอซาก้าในช่วงเดือน มิถุนายน – สิงหาคม จะเป็นช่วงฤดูร้อน ซึ่งอากาศค่อนข้างร้อน ใกล้เคียงกับบ้านเราเลยทีเดียว เดินกันทีนี่อาจจะเหงื่อท่วมได้ แต่ข้อดีก็คือ ราคาตั่วเครื่องบินช่วงนี้ราคาจะถูก และ เนื่องจากเป็นเหมือนช่วง low season ที่ญี่ปุ่นจึงจะมีการจัดช่วงลดราคาสินค้าทั้งประเทศไว้ในช่วงเดือน กรกฎาคม เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้

เวลาทำการ: 9.00 – 17.00น.  (เปิดให้เข้าชมได้ถึง 16.30น. ในบางฤดูกาลจะเปิดให้เข้าชมนานกว่าปกติ)

ค่าเข้าชม: 600 เยน หรือ ฟรี ถ้ามีบัตร Osaka Amazing Pass

วันปิดทำการ: 28 ธันวาคม – 1 มกราคม

วิธีเดินทาง: สถานีที่ใกล้ตัวปราสาทที่สุดคือสถานีรถไฟใต้ดินและ JR Station Morinomiya

ปัจจุบันปราสาทโอซาก้าสูงถึง 55 เมตร มี 5 ส่วน 8 ชั้น เครื่องประดับหลังคาและภาพเสือบนกำแพงตัวปราสาทและหลายๆ ส่วนลงทองสีอร่าม สวยงามและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกสำคัญของประเทศ

กาเดินทางโดยขึ้นรถไฟใต้ดินจากสถานี Namba Station ด้วยบัตร Osaka Amazing Pass สำหรับวิธีขึ้นรถก็ไม่ยาก คือใช้ Google maps ช่วย เมื่อลงรถใต้ดินแล้วให้เดินผ่านหลังตึกมาตามทางเล็กๆ

เมื่อเจอทางม้าลายแบบนี้ แปลว่ามาถูกทางแล้ว เราจะสามารถเห็นปราสาทโอซาก้าจากจุดนี้ได้

IMG_6409

เดินข้ามถนนมาเราก็จะเห็นตัวปราสาท ในที่สุดก็เจอ Landmark สำคัญซะที ที่สำคัญวันนี้ฝนไม่ตก แต่แดดเปรี้ยงเลย

IMG_6410

เดินไปถ่ายรูปตัวปราสาทไปครับ เพลิดเพลิน เสียดายอากาศร้อนไปนิด ไว้มีโอกาสจะมาช่วงมีซากุระบ้าง

IMG_6423

เดินร่วมหนึ่งกิโลครับ ผ่านประตูใหญ่ๆเข้ามา

IMG_6441

ถ่ายไปเรื่อยครับ

IMG_6445

ถึงสะพานอันนี้แปลว่าเข้าใกล้ตัวปราสาทโอซาก้าแล้วครับ สะพานนี้คนถ่ายรูปกันรัวๆ ย้อนแสงพอสมควรถ้ามาช่วงบ่าย

IMG_6449

รูปข้างล่างนี้ถ่ายตอนเดินเข้ามาข้างๆตัวปราสาทแล้วครับ

IMG_6471

บริเวณรอบๆปราสาท มีร้านขายของมากมาย ไม่ต้องกลัวอดตายครับ ไอศครีมรสต่างๆ น้ำดื่ม อาหาร ของทานเล่นมีเพียบครับ แต่บางอย่างอาจจะราคาสูงหน่อย .. ผมซื้อน้ำอัดลมแก้วละ 500 เยน แอบแพง .. ถ้าใครพกน้ำหรือขนมมาเองก็ดีครับ

IMG_6474 IMG_6477   IMG_6484 IMG_6485

ก่อนเดินเข้าตัวปราสาทถ่ายภาพจากด้านหน้าทางเข้าอีกซักหน่อย

IMG_6498

ตัดภาพเข้ามาด้านในของปราสาทโอซาก้าเลยนะครับ มีทั้งลิฟท์ และบันได .. แต่ใครจะขึ้นลิฟท์ก็ต้องรอหน่อย ไม่นานครับ ส่วนผมขอใช้บริการลิฟท์ขึ้นไปชั้นบนสุดก่อนแล้วชั้นอื่นๆเดินลงมาเรื่อยๆดีกว่า

บนหอคอยชั้น 8 ของยอดปราสาทเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองทิวทัศน์โดยรวมของเมืองโอซาก้าได้อย่างชัดเจน

 IMG_6510 IMG_6511  IMG_6521 IMG_6522 IMG_6524 IMG_6525 IMG_6529

 ค่อยๆเดินลงมาแต่ละชั้นจะจัดแสดงเรื่องราวของปราสาทเอาไว้ครับ … ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ครับ เดินชมอย่างเดียว T-T

IMG_6505 IMG_6506 IMG_6546 IMG_6540 IMG_6544

เดินชมจนพอใจ ตอนเดินออกจากปราสาทมา จะมีศาลเจ้าโฮโกกุ Hokoku-Jinja Shrine อยู่ใกล้ๆ และเดินถัดไม่ไกลนัก (1.1 กิโล)ไปก็มี Osaka Museum of History ซึ่งรวบรวมประวัติต่างๆของเมืองโอซาก้าให้เราศึกษา และเราสามารถจะมองเห็นปราสาทโอซาก้าได้จากชั้นบนของพิพิธภัณฑ์นี้

IMG_6598

กำแพงตรงทางออกจากปราสาทโอซาก้าครับ

IMG_6567

เรื่องและภาพโดย สวาเก้น

อะกิฮาบาระ (Akihabara) หรือที่เรียกสั้นๆ ว่าอะกิบะ (Akiba) นั้น เป็นย่านที่เต็มไปด้วยร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าตลอดจนเทคโนโลยีอันทันสมัยมากมาย ปัจจุบันย่านนี้ขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แล้ว ที่นี่ยังเป็นแหล่งคอมพิวเตอร์, กล้องถ่ายรูป, เกมส์, อนิเมชั่น, ฟิกเกอร์ โมเดล (หุ่นประกอบ), การ์ตูน ตลอดจนเป็นสวรรค์ของเหล่าบรรดาโอตาคุทั้งหลายอีกด้วย

Tokyo_12 Akihabara 01

สำหรับห้างชื่อดังยอดนิยมที่สุดของย่านนี้เห็นจะเป็น Yodobashi (www.yodobashi-akiba.com) ที่มีสินค้าจำหน่ายครบภายในตึกเดียว ตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าล้ำๆ, กล้อง, เครื่องเสียง, เกมส์, ของเล่น, โทรศัพท์มือถือ, คอมพิวเตอร์, อุปกรณ์เสริมต่างๆ, ไปจนถึงเครื่องสำอางสำหรับสาวๆ ซึ่ง Yodobashi ที่อะกิฮาบาระนี้มีถึง 8 ชั้น ให้ช้อปกันอย่างจุใจ และเป็นเสมือนแลนด์มาร์กของย่านไปในตัวด้วย ที่สำคัญหนึ่งในลูกค้าคนสำคัญของที่นี่ก็คือคนไทยนี่เองซึ่งเสียงประชาสัมพันธ์ภายในห้างนั้นยังมีเวอร์ชั่นภาษาไทยอีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีร้านดังๆ มากมายซึ่งบางร้านยังขายสินค้าปลอดภาษีอีกด้วย ร้านดังในย่านนี้ก็ได้แก่ Laox (www.laox.co.jp), sofmap (www.sofmap.com), เป็นต้น แต่สำหรับเหล่าโอตาคุบรรดาร้านรวงที่เกียวกับอนิเมชั่นและการ์ตูนต่างๆ นั้นดูจะเป็นเหมือนแหล่งแฮงค์เอาท์ของพวกเขาเป็นอย่างดีทีเดียว อาทิ Radio Kaikan (www.radiokaikan.jp) ตึก 9 ชั้นที่เต็มไปด้วยฟิกเกอร์การ์ตูนมากมาย, Kotobukiya (main.kotobukiya.co.jp) ร้านจำหน่ายฟิกเกอร์และสารพัดข้าวของจากการ์ตูนชื่อดัง, Tokyo Anime Center (www.animecenter.jp) ศูนย์กลางของอนิเมะญี่ปุ่นที่มีเรื่องราวใหม่ๆ มา update เสมอๆ, animate (www.animate.co.jp) จำหน่ายทุกสิ่งทุกอย่างที่เกียวกับอนิเมะ เป็นต้น

สำหรับสาวกกันดั้มที่นี่ก็ยังมี Gundum Café (g-cafe.jp) คาเฟ่เก๋ๆ และกาแฟคุณภาพเยี่ยมที่แต่งหน้าฟองนมด้วยสัญลักษณ์กันดั้ม, อีกสาวกที่มีอะกิฮาบาระเป็นฐานทัพก็คือเหล่าแฟนคลับของ AKB48 ซึ่งที่นี่เป็นที่ตั้งของ AKB48 Café & Shop (akb48cafeshops.com/akihabara) ให้บรรดาแฟนคลับทั้งหลายได้แฮงค์เอาท์กันอีกด้วยGundam Cafe6

อะกิฮาบาระ (Akihabara)

ที่ตั้ง : ย่านอะกิฮาบาระ, เขตชิโยดะ, โตเกียว

เปิด-ปิด : ทุกวัน 10.00-22.00 น. (เวลาโดยเฉลี่ย / เวลาปิดเปิดที่แน่นอนขึ้นอยู่กับแต่ละร้านค้าอีกที)

วิธีเดินทาง :

>วิธีที่ 1 : นั่งรถไฟ JR Line สายวงกลม Yamanote Line (สีเขียว), สาย Keihin-Tohoku Line (สายสีฟ้า) ลงสถานี Akihabara

>วิธีที่ 2 : นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย H-Hibiya Line (สีเทา) ลงสถานี H15-Akihabara