Ad
Ad
Ad
Author

swagen

Browsing

เรื่องและภาพ โดย สวาเก้น

Tokyo_08 Kitkat Chocolatory 02

ของฝากจากญี่ปุ่นยอดฮิตที่ใครๆ ก็นิยมติดไม้ติดมือกลับมาเมืองไทยมากที่สุดอย่างหนึ่งนั้นเห็นจะเป็น KitKat ช็อกโกแลตแสนอร่อยนั่นเอง โดยเฉพาะรสชาเขียวอันเป็นเอกลักษณ์ประจำญี่ปุ่นที่ไม่เหมือนใครซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นที่นิยมในบ้านเราเท่านั้น รสชาตินี้ยังเป็นที่ถูกปากถูกใจกันไปทั่วโลกอีกด้วย แต่ถ้าใครได้มีโอกาสแวะไปโตเกียวคราวนี้ต้องขอบอกว่าห้ามพลาดความพิเศษของ KitKat ที่เหนือระดับยิ่งกว่าเก่า แถมรับรองว่าเวอร์ชั่นนี้ไม่เหมือนใครในโลก

Tokyo_08 Kitkat Chocolatory 01

ความพิเศษที่ว่านี้ก็คือ KitKat Chocolatory บูติกช็อกโกแลตบาร์อันแสนพรีเมี่ยมภายใต้แบรนด์ KitKat แห่งแรกของโลกซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกที่กรุงโตเกียวนี่เอง โดยร้านแห่งนี้จะตั้งอยู่ที่ชั้นใต้ดินห้างเซบุ (Seibu Department Store) ในย่านอิเคะบุคุโระ (Ikebukuro) ทำการเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2557 (ค.ศ.2014) ที่ผ่านมา สำหรับความพิเศษของ KitKat ที่จำหน่ายภายในร้านนี้นั้นจะเป็นเวอร์ชั่นที่ใช้ช็อกโกแลตคุณภาพสูงมาทำทั้งสิ้น ซึ่งนี่ถือเป็นร้านช็อกโกแลตระดับพรีเมี่ยมร้านแรกของโลกที่อุทิศให้กับขนมขบเคี้ยวในตระกูลช็อกโกแลตเคลือบขนมปังกรอบ (Chocolate Wafer) นั่นเอง

Tokyo_08 Kitkat Chocolatory 04

สำหรับคอเล็กชั่นพิเศษชุดแรกที่วางจำหน่ายที่ KitKat Chocolatory นั้น จะเป็นช็อกโกแลตในเวอร์ชั่น Special Edition สุดพิเศษที่ไม่มีจำหน่ายที่ไหนในโลก มีด้วยกัน 3 รสชาติ ซึ่งก็ได้แก่

Tokyo_08 Kitkat Chocolatory 03

1. Sublime ที่นำ Couverture Chocolate ช็อกโกแลตคุณภาพสูงที่มีส่วนผสมของโกโก้มากเป็นพิเศษมาผลิต

Tokyo_08 Kitkat Chocolatory 05

2. Chili ช็อกโกแลตคุณภาพสูงที่ใส่ส่วนผสมของพริกหยวกเข้าไปให้มีรสเผ็ดนิดหน่อยอร่อยไม่เหมือนใคร

3.Cherry Blossoms Green Tea ช็อกโกแลตชาเขียวสูตรพิเศษที่นอกจากจะใช้ช็อกโกแลตคุณภาพสูงแล้วส่วนผสมนั้นยังคัดเลือกชาเขียวคุณภาพเยี่ยมผสมกับผงแป้งที่บดจากดอกซากุระ ให้รสชาติที่อร่อยเป็นพิเศษและมีกลิ่นหอมหวานเฉพาะตัว

Tokyo_08 Kitkat Chocolatory 06

 

ทั้งสามรสชาตินั้นคิดค้นขึ้นและดูแลควบคุมการผลิตโดยช่างทำช็อกโกแลต (Chocolatier) ชื่อดังของญี่ปุ่น คุณยาสุมาซะ ทาคากิ (Yasumasa Takagi) นั่นเอง

 Tokyo_08 Kitkat Chocolatory 07

KitKat Chocolatory

ที่ตั้ง : ชั้นใต้ดิน ห้างเซบุ (Seibu Department Store), ย่านอิเคะบุคุโร่, เขตโทชิมะ, โตเกียว

เปิด-ปิด : จ.-ส. 10.00-21.00 น. / อา. และวันหยุด 10.00-20.00 น.

วิธีเดินทาง :

>วิธีที่ 1 : นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Y-Yurakucho Line (สีเหลือง), F-Fukutoshin Line (สีเหลืองทอง), M-Marunouchi Line (สีแดง) ลงสถานี Y09/F09/M25-Ikebukuro ทางออก 44 (Exit 44)

>วิธีที่ 2 : นั่งรถไฟ JR Line สายวงกลม Yamanote Line (สีเขียว) ลงสถานี Ikebukuro St. ทางออก East Exit

 

หาตั๋วเครื่องบินราคาถูกคลิกที่นี่

ชอบกด Like ใช่กด Share ^-^

เรื่องและภาพ โดย สวาเก้น

Tokyo_09 Ueno Park 03

สวนอุเอโนะ (Ueno Park) นั้นถือเป็นสวนสาธารณะแห่งแรกของญี่ปุ่นที่เปิดให้บริการเป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1873 ซึ่งก่อนหน้านั้นพื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นของวัดคันเอจิ (Kaneiji Temple) มาก่อน ปัจจุบันกลายเป็นสวนสาธารณะอันเก่าแก่ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าสวนแห่งนี้จะตั้งอยู่ใจกลางเมืองใหญ่อย่างโตเกียว แวดล้อมไปด้วยตึกสูงมากมาย แต่ทว่าเมื่อก้าวเข้าสู่สวนอุเอโนะแล้วคุณจะรู้สึกเหมือนว่าก้าวเข้าสู่อีกโลกหนึ่งเลยทีเดียว

Tokyo_09 Ueno Park 01

Tokyo_09 Ueno Park 07

Tokyo_09 Ueno Park 10

ภายในสวนอุเอโนะนั้นนอกจากจะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจหลากหลายมุมแล้ว ภายในยังมีสถานที่ท่องเที่ยวและศาสนสถานที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ วัดคันเอจิ (Kaneiji Temple) อดีตวัดเก่าแก่อันยิ่งใหญ่ที่หลงเหลือจากสงครามในยุคเอโดะ มรดกอันสำคัญก็ได้แก่เจดีย์ 5 ชั้น, ศาสนอาคารหลัก (Kaneiji’ main hall), วัดคิโยมิซุ คานนอน (Kiyomizu Kannon Temple) อันเป็นส่วนหนึ่งของวัดคันเอจิ, ศาลเจ้าโทโชกุ (Toshogu Shrine) อันเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1616

Tokyo_09 Ueno Park 04

Tokyo_09 Ueno Park 02

โดยรอบสวนอุเอโนะนั้นยังเต็มไปด้วยแหล่งศึกษาหาความรู้หลายแหล่งตั้งแต่เรื่องวิทยาศาสตร์ไปจนกระทั่งศิลปวัฒนธรรม เริ่มตั้งแต่ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติโตเกียว (Tokyo National Museum) พิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดและใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ภายในเต็มไปด้วยโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าของประเทศจัดแสดงไว้มากมายกว่า 5 ชั้น, พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (National Science Museum) จัดแสดงเรื่องวิทยาศาสตร์และธรรมชาติด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย, พิพิธภัณฑ์ศิลปะกรุงโตเกียว (Tokyo Metropolitan Art Museum) จัดแสดงศิลปะร่วมสมัยที่น่าสนใจกว่า 6 แกลเลอร์รี่, พิพิธภัฑณ์ศิลปะแห่งโลกตะวันตกแห่งชาติ (National Museum of Western Art) จัดแสดงงานศิลปะจากฝั่งยุโรปที่มีตั้งแต่คอเล็กชั่นเก่าแก่ถาวรไปจนถึงงานศิลปะที่หมุนเวียนมาจัดแสดงจากพิพิธภัณฑ์มีชื่อเสียงของโลก

Tokyo_09 Ueno Park 06  Tokyo_09 Ueno Park 08 Tokyo_09 Ueno Park 09

นอกจากนี้สวนอุเอโนะยังเต็มไปด้วยแหล่งพักผ่อนหย่อนใจมากมายหลายมุม อาทิ สวนสัตว์อุเอโนะ (Ueno Zoo) ซึ่งเป็นสวนสัตว์เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่นที่เปิดบริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1882, บึงซิโนะบาซุ (hinobazu Pond) ที่มีเรือพายและเรือถีบให้เราชมสวนสวยๆ โดยเฉพาะหน้าซากุระที่บริเวณนี้เป็นสถานที่ยอดฮิตทีเดียว, คาเฟ่เก๋ๆ รอบลานกว้างกลางสวนอุเอโนะ, ถนนสายซากุระที่มุ่งสู่ลานกว้างกลางสวนซึ่งในฤดูที่ซากุระเบ่งบานนั้นสถานที่แห่งนี้จะเต็มไปด้วยผู้คนมากมายและเป็นหนึ่งในสถานที่ยอดฮิตที่มีคนมาร่วมฉลองฤดูดอกไม้เบ่งบานมากที่สุดอีกด้วย แถมบริเวณตลอดแนวถนนและลานกว้างนั้นจะมีการแสดงริมถนน (Street Performance) หลากรูปแบบมาโชว์ความสามารถพิเศษให้ชมกันฟรีๆ กันทุกวันอีกด้วย

 

Tokyo_09 Ueno Park 05

Ueno Park

ที่ตั้ง : ย่านอุเอโนะ, เขตไทโตะ, โตเกียว

เปิด-ปิด : ทุกวัน 06.00-22.00 น. (เวลาโดยเฉลี่ย / การเปิด-ปิดของสถานที่ย่อยนั้นไม่เหมือนกัน กรุณาเช็ครายละเอียดตามแต่ละสถานที่อีกครั้ง)

วิธีเดินทาง :

>วิธีที่ 1 : นั่งรถไฟ JR Line สายวงกลม Yamanote Line (สีเขียว), สาย Keihin-Tohoku Line (สายสีฟ้า) ลงสถานี Ueno  ออกทาง Park Gate (เข้าสู่กลางสวนสาธารณะ)

>วิธีที่ 2 : นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย G-Ginza Line (สีส้ม), H-Hibiya Line (สีเทา) ลงสถานี G16/H17-Ueno ทางออก  6 (Exit 6)

>วิธีที่ 3 : นั่งรถไฟสาย Keisei Line ลงสถานี Keisei-Ueno (ปลายทาง) ออกทางออกหลัก

 

เรื่องและภาพ โดย สวาเก้น 

Tokyo_07 Sensoji Temple Asakusa 02

วัดเซนโซ (Sensoji) ที่หลายคนอาจเรียกว่าวัดเซนโซจิ หรือที่คนส่วนใหญ่มักเรียกกันจนติดปากว่าวัดอาซากุสะนั้น ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตและเป็นสัญลักษณ์สำคัญแห่งหนึ่งของโตเกียว ตัววัดนั้นตั้งอยู่ในย่านดังอย่างอาซากุสะ (Asakusa) ก็เลยเป็นที่มาของการเรียกชื่อวัดนี้ด้วยนั่นเอง ตามตำนานเล่าว่ามีชาวประมงได้พบรูปเคารพเจ้าแม่กวนอิม (Avalokitesvara) ในแม่น้ำสุมิดะที่อยู่ไม่ไกลนักราวปี ค.ศ.628 ภายหลังจากนั้นก็ได้มีการสร้างวัดขึ้นเพื่อประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิมนี้ซึ่งวัดนี้สร้างเสร็จราวปี ค.ศ.645 ถือเป็นวัดพุทธที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียวเลยทีเดียว

Tokyo_07 Sensoji Temple Asakusa 03

 

Tokyo_07 Sensoji Temple Asakusa 01

จุดเด่นที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกรู้จักกันเป็นอย่างดี และต้องแวะมาถ่ายรูปกันแทบทุกคน ก็คือประตูทางเข้าด้านหน้า ประตูคามินาริมอน (Kaminarimon Gate) หรือที่แปลว่าประตูแห่งสายฟ้า (Thunder Gate) ทางด้านทิศใต้ของวัดซึ่งเป็นประตูขนาดใหญ่ที่มีโคมแดงขนาดยักษ์เป็นเอกลักษณ์นั่นเอง ประตูแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.941 แต่ทว่าถูกไฟเผาไหม้หลายครั้ง สำหรับประตูปัจจุบันนั้นสร้างขึ้นราวปี ค.ศ.1960 ประตูแห่งสายฟ้านี้มีเทพสองตนเฝ้าอยู่ด้านข้างนั่นก็คือเทพฟูจิน (เทพแห่งลม) และเทพไรจิน (เทพแห่งสายฟ้า) เฝ้าประตูอยู่ และจุดหัตศิลป์อันสำคัญอีกจุดที่ซ่อนอยู่นั้นก็คือบริเวณใต้โคมแดงที่จะเป็นไม้แกะสลักรูปมังกรอันประณีตงดงาม สำหรับตัววัดด้านในนั้นประกอบไปด้วย ประตูโฮโซมอน (Hozomon) ที่มีขนาดใหญ่สองชั้นและโคมแดงยักษ์, วิหารฮอนโด (Hondo main hall) อันเป็นศาสนสถานหลักของวัด, และเจดีย์ 5 ชั้น อันสวยงาม นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตแล้วคนญี่ปุ่นก็ยังนิยมมาขอพรที่วัดนี้กันอีกด้วย

 Tokyo_07 Sensoji Temple Asakusa 04 Tokyo_07 Sensoji Temple Asakusa 05 Tokyo_07 Sensoji Temple Asakusa 06 

วัดเซนโซ (Sensoji)
ที่ตั้ง : ย่านอาซากุซะ, เขตไทโต๊ะ, โตเกียว

เปิด-ปิด : ทุกวัน 06.00-17.00 น. (บริเวณวัดสามารถเดินชมได้ตลอด 24 ชม.)

วิธีเดินทาง :

>วิธีที่ 1 : นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย G-Ginza Line (สีส้ม) ลงสถานี G19-Asakusa ทางออก 1, 3 (Exit 1, 3)

>วิธีที่ 2 : นั่งรถไฟใต้ดิน Toei Line สาย A-Asakusa Line (สีส้มแดง) ลงสถานี A18-Asakusa ทางออก A4 (Exit A4)

>วิธีที่ 3 : นั่งรถไฟสาย Tobu Skytree Line ลงสถานี TS01-Asakusa (ต้นทาง) ทางออกหลัก

Tokyo_07 Sensoji Temple Asakusa 07

โตเกียวเป็นมหานครขนาดใหญ่ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวตลอดจนสิ่งน่าสนใจอยู่มากมาย แต่สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของโตเกียวที่ห้ามพลาดนั้น “รู้จริงญี่ปุ่น” คัดมาแนะนำดังนี้

1. Tokyo Skytree : หอคอยอันตระหง่านแห่งใหม่แห่งมหานครโตเกียวที่สูงกว่า 634 เมตร ครองตำหน่งหอคอยที่สูงที่สุดในโลกและสถาปัตยกรรมที่สูงที่สุดเป็นอันดับสองของโลก ด้านบนนั้นเปิดให้ขึ้นไปชมวิวในมุมสูงได้ 2 ระดับ คือที่ระดับความสูง 350 เมตร และที่ระดับความสูง 450 เมตร โดยสามารถเห็นเมืองโตเกียวในมุมสูงได้แบบ 360 องศา รวมไปถึงสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อีกด้วย อ่านรีวิว Tokyo Skytree ได้ที่นี่

Tokyo_06 Top 5 Tokyo Attractions 01 Tokyo Skytree

2.อะซะกุซะ (Asakusa) : ย่านอะซะกุซะนั้นยังคงเป็นย่านท่องเที่ยวยอดฮิตยอดนิยมอยู่ไม่เสื่อมคลาย โดยเฉพาะการแวะไปสักการะวัดพุทธที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียวอย่างวัดเซนโซ (Sensoji) ถ่ายรูปกับโคมแดงยักษ์อันมีชื่อเสียงที่ประตูคามินาริมอน (Kaminarimon Gate) จนกระทั่งช้อปปิ้งของที่ระลึกและชิมของอร่อยที่นากะมิเซะ (Nakamise) อันถือว่าเป็นตลาดแห่งแรกของโตเกียวเลยก็ว่าได้ อ่านรีวิวเที่ยววันเซนโซ (Sensoji) ได้ที่นี่

Tokyo_06 Top 5 Tokyo Attractions 02 Asakusa

3. ซึกิจิ (Tsukiji Fish Market): ตลาดปลาที่ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดในโลกนี้มีชีวิตชีวาต้อนรับนักท่องเที่ยวกันแต่เช้าตรู่ การเดินเที่ยวตลาดสดแบบโตเกียวนั้นสนุกและน่าตื่นเต้นทีเดียว แต่ว่ากิจกรรมที่ห้ามพลาดเด็ดขาดเมื่อมาเยือนตลาดนี้ก็คือการเสาะหาของอร่อยๆ กินโดยเฉพาะซูชิที่ทำจากปลาสดๆ หลากชนิดที่ถือว่ารสเยี่ยมอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว อ่านรีวิวพาเที่ยวตลาดปลาซิกิจิและแนะนำร้านอร่อยที่ตลาดปลาได้ที่นี่

Tokyo_06 Top 5 Tokyo Attractions 03 Tsukiji

4. ย่านชิบุยา (Shibuya Area) : อาณาเขต Shopping & Lifestyle ที่ใหญ่และน่าเดินที่สุดนั้นคงต้องยกนิ้วให้ย่านชิบุย่าทั้งย่านซึ่งเราสามารถเดินช้อปทะลุถึงกันได้ทั้งหมด (เหนื่อยหน่อยแต่สนุกและคุ้มค่า) สำหรับย่านนี้มีอาณาเขตติดต่อกันชนิดที่ว่าเดินทะลุถึงกันได้นั้นก็ตั้งแต่ย่านหลักย่านใหญ่อย่างชิบุยา (Shibuya) ที่สามารถเดินต่อมายัง cat street สู่ย่านอะโอยาม่า (Aoyama) หรือตรงสู่โอโมเตะซานโด (Omotesando) ย่านเก๋หรูหราที่ได้รับฉายาว่า Tokyo’s Champs-Élysées ได้อย่างเพลินๆ ต่อจากนั้นอาจเดินช้อปผ่านตรอกซอกซอยจนไปถึงย่านฮาราจูกุ (Harajuku) ได้อย่างชิลล์ๆ เชียวล่ะ แล้วแถมท้ายการช้อปปิ้งด้วยการแวะไปสักการะศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu) อันโด่งดังได้อีกด้วย

Tokyo_06 Top 5 Tokyo Attractions 04 Shibuya

5. สวนอุเอโนะ (Ueno Park) : สวนสาธารณะอันยิ่งใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่นซึ่งภายในมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมายตั้งแต่ศาสนสถาน (อาทิ วัดคันเอจิ, ศาลเจ้าโทโชกุ), พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ (Tokyo National Museum, National Science Museum), พิพิธภัณฑ์ศิลปะ (Tokyo Metropolitan Art Museum, National Museum of Western Art), สวนสัตว์ (Ueno Zoo), ตลอดจนคาเฟ่เก๋ๆ และการแสดง Street Performance ที่น่าสนใจมากมาย แล้วยิ่งถ้าเป็นฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระเบ่งบานนั้นสวนอุเอโนะแห่งนี้ยังถือเป็นที่ชมซากุระยอดฮิตอีกด้วย อ่านรีวิวพาเที่ยวสวนอุเอโนะได้ที่นี่

Tokyo_06 Top 5 Tokyo Attractions 05 Ueno Park

เรื่องและภาพ โดย สวาเก้น

รู้จริงญี่ปุ่น_Tokyo_05 Tsukiji 01

ตลาดปลาซึกิจิ (Tsukiji Fish Market) น่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเพียงแห่งเดียวในโตเกียวที่นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องตื่นแต่เช้าตรู่ในยามที่แสงแดดยังไม่ส่องเสียด้วยซ้ำ และคงจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งเดียวที่มาเยือนได้ตั้งแต่ราวๆ ตี 4

รู้จริงญี่ปุ่น_Tokyo_05 Tsukiji 02 รู้จริงญี่ปุ่น_Tokyo_05 Tsukiji 03

ตลาดปลาซึกิจิ (หรือบางทีก็เขียนว่า “สึกิจิ”) นั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอันดับต้นๆ ของโตเกียวที่ใครๆ ก็ปักหมุดว่าต้องมาเยือน ความจริงแล้วชื่ออย่างเป็นทางการของที่นี่นั้นก็คือ ตลาดขายส่งกลางนครโตเกียว (Tokyo Metropolitan Central Wholesale Market) เปิดบริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1935 ตลาดปลาแห่งนี้ถือว่าเป็นตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลก แถมยังเป็นตลาดค้าส่งที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย ปลาสดๆ จะขึ้นที่ท่านี้และถูกส่งไปยังทั่วโลก ความคึกคักในตลาดนั้นเริ่มขึ้นตั้งแต่ราวๆ ตี 4 ที่จะมีการเปิดตลาดขายปลาและอาหารทะเล รวมไปถึงกิจกรรมที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดกิจกรรมหนึ่งอย่างตลาดประมูลปลาทูน่าที่อยู่ด้านในสุดนั่นเอง ซึ่งตลาดนี้จะคึกคักวุ่นวายกันตั้งแต่เช้ามืดเพื่อให้ทันการส่งปลาไปยังที่ต่างๆ รวมถึงนอกประเทศญี่ปุ่นด้วย แต่สำหรับโซนนี้จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้จริงๆ ก็หลังเวลา 09.00 น. เท่านั้น ทั้งนี้ก็เพื่อความสะดวกในการทำงานของเจ้าหน้าที่และผู้ซื้อขายนั่นเอง

รู้จริงญี่ปุ่น_Tokyo_05 Tsukiji 05รู้จริงญี่ปุ่น_Tokyo_05 Tsukiji 06

ตลาดปลาซึกิจินั้นมีแหล่งให้ซอกแซกซอกซอนน่าสนใจมากมายทีเดียว เริ่มจากนอกตลาดที่จะมีร้านค้าขายของสารพัดอย่างโดยเฉพาะข้าวของที่เกี่ยวกับการครัวไปจนถึงเครื่องปรุงต่างๆ แถมยังมีร้านที่เปิดขายของอร่อยๆ อารมณ์  Street Food แทรกตัวอยู่อีกเพียบ อีกโซนยอดฮิตนั้นก็คือโซนด้านในตลาด ตรงนี้จะเป็นตลาดสดขายอาหารทะเลสดๆ ที่มีให้เลือกหลากหลายร้านกันเลยทีเดียว แล้วกิจกรรมที่พลาดไม่ได้ก็คือการตะลุยชิมความสดอร่อยโดยเฉพาะโซนยอดฮิตด้านหน้าตลาดปลาที่เป็นแหล่งรวมร้านอร่อยขึ้นชื่อแห่งโตเกียวมากมาย เอาเป็นว่าเรามีตัวอย่างมาชวนชิมกัน…

รู้จริงญี่ปุ่น_Tokyo_05 Tsukiji 04

ร้านซูชิได (Sushi Dai) คือ ร้านซูชิอันดับหนึ่งที่ห้ามพลาด เพราะร้านนี้ถือว่าโด่งดังมากที่สุดในตลาดนี้แถมยังโด่งดังระดับโลก ที่นอกจากวัตถุดิบจะสดใหม่มากๆ แล้วฝีมือของซูชิเชฟยังถือเป็นตัวดึงดูดให้คนแวะมาชิมกันไม่ขาดสาย โดยเชฟจะบรรจงทำข้าวปั้นกับปลาหน้าต่างๆ ในสูตรพิเศษเฉพาะตัวให้ทานกันแบบคำต่อคำเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าร้านจะเปิดตั้งแต่เช้าตรู่ราวๆ ตี 5 แต่ทว่าจะมีคนตื่นมาต่อแถวกันตั้งแต่ราวๆ ตี 4 กันเชียวล่ะ แล้วแถวอันยาวเหยียดนี้ก็จะเป็นแบบนี้ไปตลอดทั้งวัน ซึ่งค่าเฉลี่ยของการรอชิมของอร่อยนั้นก็อยู่ที่ราวๆ 3 ชั่วโมง แต่ก็ขอบอกว่าอร่อยคุ้มค่าแก่การรอคอยเชียวล่ะ

ที่ตั้ง : อยู่ในซอยตึกแถวหมายเลข 6

เปิด-ปิด : 05.00-14.00 น. ปิดวันอาทิตย์และวันหยุดของตลาดปลา

ราคา : มีให้เลือก 2 เซ็ต คือ Jyou แบบ 7 ชิ้น ราคา 2,500 เยน และ Omakase แบบ 11 ชิ้น ราคา 3,900 เยน)

รู้จริงญี่ปุ่น_Tokyo_05 Tsukiji 14 Sushi Dai

รู้จริงญี่ปุ่น_Tokyo_05 Tsukiji 07 Sushi Dai

รู้จริงญี่ปุ่น_Tokyo_05 Tsukiji 08 Sushi Dai

ร้าน โยเนะฮานะ อุนาหงิ (Yonehana Unagi) คือ ร้านข้าวหน้าปลาไหลที่ต้อนรับด้วยภาษาไทย เพราะมีชาวไทยเป็นขาประจำที่ตลาดซึกิจินี้มากมาย ร้านข้าวหน้าปลาไหลร้านนี้ก็เลยมีภาษาไทยเขียนต้อนรับไว้หน้าร้านอย่างน่ารักซะด้วยสิ ไม่นับเจ้าของร้านที่พอพูดไทยได้นิ๊ดหน่อยที่จะทำให้มื้อนี้ของเราสนุกขึ้นทีเดียว ร้านที่ว่านี้ก็คือ ร้านข้าวหน้าปลาไหลอินเตอร์ที่มีเสน่ห์ด้วยการเขียนลายมือเชื้อเชิญเป็นภาษาต่างๆ อยู่หน้าร้าน แน่นอนว่าเมนูเด็ดก็คือข้าวหน้าปลาไหลที่นำปลาสดใหม่มาปรุงในแบบฉบับเฉพาะตัวที่อร่อยทีเดียว

ที่ตั้ง : อยู่ในซอยตึกแถวหมายเลข 8

เปิด-ปิด : 05.00-15.00 น. ปิดวันอาทิตย์และวันหยุดของตลาดปลา

ราคา : เริ่มต้นที่ราวๆ 1,500 เยน

รู้จริงญี่ปุ่น_Tokyo_05 Tsukiji 09 ข้าวหน้าปลาไหล รู้จริงญี่ปุ่น_Tokyo_05 Tsukiji 10 ข้าวหน้าปลาไหล

ซึคิจิ ยามาโชว (Tsukiji Yama-Chou) คือ ร้านไข่หวานยอดนิยม ที่แม้ภายในบริเวณตลาดซึคิจินั้นมีร้านขายไข่หวานอยู่หลายร้าน แต่ร้านที่มีชื่อเสียงยอดนิยมหน่อยเห็นจะเป็นร้านไข่หวานเสียบไม้พร้อมหม่ำที่ชื่อ “ซึคิจิ ยามาโซว”  ที่อยู่โซนด้านนอกตลาด ร้านไข่หวานเสียบไม้ร้านนี้ใหญ่โตและมีคนต่อแถวพอสมควร ไข่หวานที่คล้ายๆ กับไข่เจียวนั้นถูกทำอย่างพิถีพิถันในแบบเฉพาะตัว ไข่นุ่ม หอมกรุ่น ราดน้ำจิ้มรสเยี่ยม ทำให้ชวนติดใจในรสชาติยิ่งนัก

ที่ตั้ง : อยู่โซนนอกตลาดด้านข้างบริเวณทางเข้า

เปิด-ปิด : ทุกวัน 06.00-15.30 น.

ราคา : ไม้ละ 100 เยน

รู้จริงญี่ปุ่น_Tokyo_05 Tsukiji 11 ไข่หวาน

รู้จริงญี่ปุ่น_Tokyo_05 Tsukiji 12 ไข่หวาน

รู้จริงญี่ปุ่น_Tokyo_05 Tsukiji 13 ไข่หวาน

ตลาดปลาซึกิจิ (Tsukiji Fish Market)

ที่ตั้ง : แขวงซึกิจิ, เขตชูโอ, โตเกียว

เปิด-ปิด : ตลาดเปิดราวๆ 04.00 น. ในส่วนของตลาดปลาจะวายราวๆ 10.00 น. แต่ในส่วนของร้านค้าโดยรอบอาจเปิดถึงตอนบ่ายไปจนกระทั่งค่ำ ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน / ตลาดปิดวันอาทิตย์ และวันหยุดตามปฎิทินญี่ปุ่น

วิธีเดินทาง :

>วิธีที่ 1 : นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย H-Hibiya Line (สีเทา) ลงสถานี H10-Tsukiji ทางออก 1 (Exit 1) เสร็จแล้วเดินไปตามถนนอีกราว 5-10 นาที

>วิธีที่ 2 : นั่งรถไฟใต้ดิน Toei Line สาย E-Oedo Line (สีชมพู) ลงสถานี E18-Tsukijishijo ทางออก A1)

 

เรื่องและภาพโดย สวาเก้น

รู้จริงญี่ปุ่น_Tokyo_04 Tokyo Disney Resort 01

เชื่อว่าใครหลายคนที่มาเที่ยวโตเกียวนั้นอยากที่จะกลับไปเป็นเด็กกันทุกคน แล้วก็แน่นอนว่าประตูวิเศษที่จะพาเรากลับไปเป็นเด็กได้อย่างสนุกสนานนั้นก็คืออาณาจักรสวนสนุกระดับโลกอย่าง Tokyo Disney Resort นั่นเอง

รู้จริงญี่ปุ่น_Tokyo_04 Tokyo Disney Resort 03

โตเกียวดีสนีย์รีสอร์ท (Tokyo Disney Resort) หรือที่ทุกคนเรียกติดปากตามชื่อเดิมว่าโตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) นั้นเป็นสวนสนุกภายใต้ลิขสิทธิ์ของบริษัทวอล์ทดิสนีย์ (The Walt Disney Company) ที่เปิดบริการครั้งแรกในปี 1983 และถือว่าเป็นสวนสนุกดิสนีย์แห่งแรกที่เปิดให้บริการนอกอเมริกาอีกด้วย ต่อมาในเดือนกันยายน ปี 2001 สวนสนุกแห่งนี้ก็ได้เปิดทำการสวนสนุกแห่งใหม่ใกล้ๆ กันโดยใช้ชื่อว่า TokyoDisneySea และทำธีมสวนสนุกเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอาณาจักรแห่งมหาสมุทร ซึ่งภายหลังจากนั้นอาณาจักรแห่งนี้ก็เลยเปลี่ยนชื่อเรียกโดยรวมว่า Tokyo Disney Resort นั่นเอง

รู้จริงญี่ปุ่น_Tokyo_04 Tokyo Disney Resort 07

โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) นั้นประกอบไปด้วยสวนสนุกอันเป็นโครงสร้างพื้นฐานเดียวกันกับสวนสนุก Disneyland ทั่วโลก โดยแบ่งเป็นโซนหลักๆ 7 โซน ได้แก่ โซน World Bazaar, โซน Adventureland, โซน Westernland, โซน Fantasyland, โซน Toontown, โซน Tomorrowland, โซน Critter Country และสัญลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นประจำสวนสนุก Disneyland ทั่วโลกนั้นก็คือปราสาทของเจ้าหญิงซินเดอร์เรลล่า (Cinderella Castle) ที่ตั้งอยู่ตรงกลางเชื่อมทุกโซนแล้วนี่ก็คือสัญลักษณ์ที่ใช้เป็นโลโก้ของดินแดนมหัศจรรย์อย่าง Disneyland อีกด้วย

รู้จริงญี่ปุ่น_Tokyo_04 Tokyo Disney Resort 02

โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) นั้นเป็นสวนสนุกที่ฉีกแนวมาจากความแฟนตาซีขึ้นอีกนิด แล้วก็มีเครื่องเล่นที่หวาดเสียวขึ้นอีกหน่อย สำหรับธีมนั้นก็คืออาณาจักรมหาสมุทรที่จะมีทะเลจำลองเป็นสายน้ำเชื่อมถึงกันทุกพื้นที่ของสวนสนุก โดยแบ่งเป็นโซนหลักต่างๆ 7 โซน ได้แก่ โซน Mediterranean Harbor, โซน American Waterfront, โซน Port Discovery, โซน Last River Delta, โซน Arabian Coast, โซน Mermaid Lagoon, โซน Mysterious Island และมีสัญลักษณ์อันเป็นจุดเด่นอยู่กลางสวนสนุกนั่นก็คือภูเขาไฟขนาดยักษ์ที่จะมีการโชว์การระเบิดในยามค่ำคืนอีกด้วย

รู้จริงญี่ปุ่น_Tokyo_04 Tokyo Disney Resort 04

นอกจากเครื่องเล่นสนุกๆ มากมายที่สร้างจากธีมของตัวการ์ตูนตลอดจนหนังเรื่องต่างๆ ของดิสนีย์แล้ว การช้อปปิ้งของที่ระลึกต่างๆ ตลอดจนแวะทานร้านอาหารต่างๆ ที่สร้างสรรค์การตกแต่งร้านและเมนูที่มีคาร์แร็คเตอร์ต่างๆ เป็นแรงบันดาลใจนั้นก็ถือว่าเป็นอีกกิจกรรมที่แนะนำ เพราะสิ่งต่างๆ เหล่านี้คุณจะหาความสนุกแบบพิเศษสุดในโลกภายนอกไม่ได้เชียวล่ะ อ้อ! แล้วอย่าลืมเก็บความประทับใจในวัยเด็กด้วยรูปถ่ายกับตัวการ์ตูนต่างๆ ที่ราวมีชีวิตจริง โดยเฉพาะพระเอก นางเอก ที่เสมือนเป็นเจ้าบ้านคอยต้อนรับทุกคนอย่างมิกกี้เมาส์ (Mickey Mouse) และ มินนี่ เมาส์ (Minnie Mouse) ที่จะทำให้เราฉีกยิ้มได้ไปอีกนานเชียวล่ะ

รู้จริงญี่ปุ่น_Tokyo_04 Tokyo Disney Resort 05 รู้จริงญี่ปุ่น_Tokyo_04 Tokyo Disney Resort 06

Tokyo Disney Resort

ที่ตั้ง : สถานีไมฮามะ (Maihama), เขตอุรายาซึ (Urayasu), ชิบะ (Chiba)

เปิด-ปิด : 08.30-22.00 น. (เวลาโดยประมาณ / โปรดเช็คเวลาเปิด-ปิดในแต่ละวันอีกครั้งซึ่งไม่เหมือนกัน)

ค่าบริการ :

>1-day passport (ต่อ 1 สวนสนุก) : ผู้ใหญ่ 6,200 เยน / วัยรุ่น 12-17 ปี 5,300 เยน / เด็ก 4-11 ปี 4,100 เยน

>2-day passport (เข้าได้สวนสนุกละ 1 วัน / ต้องเป็นวันที่ติดกัน) : ผู้ใหญ่ 10,700 เยน / วัยรุ่น 12-17 ปี 9,400 เยน / เด็ก 4-11 ปี 7,400 เยน

หมายเหตุ : ดูรายละเอียดบัตรประเภทอื่นๆ เพิ่มเติมได้ในเว็บไซต์ของ Tokyo Disney Resort

เว็บไซต์ : www.tokyodisneyresort.jp

วิธีเดินทาง :

>วิธีที่ 1 : เริ่มต้นที่สถานีรถไฟ Tokyo Station นั่งรถไฟ JR Keiyo Line หรือ Musashino Line ลงสถานี Maihama

>วิธีที่ 2 : นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro Line สาย Y-Yurakucho Line (สายสีเหลือง) ลงสถานี Y24-Shin-kiba / เสร็จแล้วต่อรถไฟ JR Keiyo Line หรือ Musashino Line ลงสถานี Maihama

เรื่องและภาพโดย สวาเก้น
รู้จริงญี่ปุ่น_Tokyo_03 Robot Restaurant, Shinjuku 02

วันนี้เรามีของใหม่มาแนะนำกับ Robot Restaurant แหล่งบันเทิงแกะกล่องใจกลางย่าน Kabukicho แหล่งเริงร มย์ยามค่ำคืนชื่อดังแห่งชินจูกุ กลางกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง ซึ่งร้านอาหารกึ่งโชว์การแสดงนี้เขาประกาศตัวเองว่าเป็นโชว์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนบนโลกใบนี้อีกด้วยล่ะ ใครแวะมาเที่ยวญี่ปุ่นต้องห้ามพลาด

รู้จริงญี่ปุ่น_Tokyo_03 Robot Restaurant, Shinjuku 01

ขึ้นชื่อว่า Robot Restaurant นั้นจริงๆ แล้วหลายคนอาจคิดถึงภาพร้านอาหารที่มีหุ่นยนต์เสิร์ฟอย่างที่เคยมีข่าวมาแล้วหลายที่เป็นแน่ แต่อันที่จริงแล้ว Robot Restaurant นั้นก็คือความบันเทิงรูปแบบใหม่ที่ออกมาในสไตล์โชว์การแสดงแกล้มอาหาร(กล่อง)มากกว่า แล้วถ้าหากดูชื่อย่านและเวลาการจัดแสดงแล้วก็พอจะรู้ว่าสถานบันเทิงแห่งนี้ออกแนวเป็นแหล่งสร้างสีสันยามค่ำคืนที่บวกกับความวาบหวิวพอหอมปากหอมคอ

รู้จริงญี่ปุ่น_Tokyo_03 Robot Restaurant, Shinjuku 03 รู้จริงญี่ปุ่น_Tokyo_03 Robot Restaurant, Shinjuku 04

Robot Restaurant นั้นซ่อนตัวอยู่ในตึกเล็กๆ แห่งหนึ่งใจกลางย่านบันเทิงยามราตรีอย่างคาบูกิโชวที่ได้รับการตกแต่งอย่างมีสีสันล้ำสมัย สถานที่แสดงโชว์นั้นดูออกจะคล้ายกับการนั่งแข่งเกมโชว์อย่างไรอย่างนั้นเสียมากกว่า โดยผู้เข้าชมนั้นจะถูกจัดให้นั่ง (แบบมีหมายเลขที่นั่ง) บนแสตนด์แคบๆ 2 ข้าง พื้นที่ตรงกลางที่กว้างราวๆ 3 เมตร ยาวประมาณ 10 เมตร เป็นเหมือนรันเวย์ของโชว์ที่จะเกิดขึ้น ผู้ชมจะได้รับการแจกข้าวกล่อง(สำเร็จรูป) 1 กล่องให้นั่งชิมขณะชม ถ้าใครอยากรื่นมรมย์กว่านั้นก็มีบริการขายเครื่องดื่มเสริมอย่างเบียร์หรือน้ำอัดลมให้ตามความต้องการ

รู้จริงญี่ปุ่น_Tokyo_03 Robot Restaurant, Shinjuku 05 รู้จริงญี่ปุ่น_Tokyo_03 Robot Restaurant, Shinjuku 06
ถึงแม้พื้นที่จะเล็กจิ๋วแต่ทว่าโชว์ที่จัดให้นั้นก็อลังการเต็มที่ใช้ได้ทีเดียว เสียงเพลงกับแสงสีถูกสาดแสงลงมายังรันเวย์การแสดงพร้อมๆ กับอุปการณ์ในการโชว์ที่เน้นเทคโนโลยีขับเคลื่อนเสียเป็นส่วนใหญ่ แล้วก็แน่นอนว่าผู้ที่มากับเทคโนโลยีเหล่านั้นก็คือบรรดาสาวๆ ที่แต่งตัวแฟนซีวาบหวิวออกมาเต้นกันอย่างยั่วน้ำลายทีเดียว และสำหรับไฮไลท์ (ที่ใช้โฆษณา) อย่างหุ่นยนต์ตัวใหญ่ที่เป็นรูปสาวสวยหน้าอกโตนั้นก็ถูกบังคับด้วยสาวๆ ออกมาแสดงอย่างน่าสนใจทีเดียว นั่นยังไม่นับโชว์หุ่น (หุ่นจริงๆ) ที่มีเทคโนโลยีที่น่าสนใจและสร้างความบันเทิงได้อย่างดีเยี่ยมสมกับเป็นเทคโนโลยีแห่งความบันเทิงที่การันตีด้วยสัญชาติญี่ปุ่นเลยทีเดียว … ระยะเวลาในการโชว์นั้นรอบละประมาณ 1 ชั่วโมง โดยในแต่ละวันจะแบ่งเป็นรอบต่างๆ 3 รอบ นั่นก็คือ รอบที่ 1 เวลา 19.00 น., รอบที่สองเวลา 20.30 น., รอบที่ 3 เวลา 22.00 น.

รู้จริงญี่ปุ่น_Tokyo_03 Robot Restaurant, Shinjuku 07

Robot Restaurant  ย่านชินจูกุ (Shinjuku)

ที่ตั้ง : ย่านคาบูกิโชว, เขตชินจูกุ, โตเกียว

เปิด-ปิด : ทุกวัน แบ่งการแสดงเป็น 3 รอบ คือ รอบที่ 1 เวลา 19.00 น., รอบที่สองเวลา 20.30 น., รอบที่ 3 เวลา 22.00 น. (สามารถซื้อตั๋วได้ที่หน้าร้าน หรือสำรองที่นั่งล่วงหน้าได้)

ค่าบริการ : 5,000 เยน (ราคานี้รวมอาหาร 1 กล่อง + น้ำดื่ม) / หากนำโบรชัวร์หรือโฆษณาในหนังสือต่างๆ มาด้วยจะได้ลดราคา 20% ทั้งนี้แล้วแต่โปรโมชั่นแต่ละช่วงเทศกาลอีกด้วย

ติดต่อ : 03-320-550 / www.robot-restaurant.com

รู้จริงญี่ปุ่น_Tokyo_03 Robot Restaurant, Shinjuku 08
วิธีเดินทาง :

>วิธีที่ 1 : นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย M-Marunouchi Line (สีแดง) หรือ สาย F-Fukotoshin Line (สีน้ำตาลทอง) ลงสถานี M09/F13-Shinjuku-sanchome เสร็จแล้วออกทางออก B11

>วิธีที่ 2 : นั่งรถไฟใต้ดิน Toei Line สาย S-Shinjuku Line (สายสีเขียวอ่อน) ลงสถานี S02-Shinjuku-sanchome / เสร็จแล้วออกทางออก B11

 

สำรองที่นั่ง