Ad
Ad
Ad
Author

admin

Browsing

ร้านสเต็ก Yappari Steak

ร้านสเต็ก Yappari Steak สาขา Kyobashi Osakaโด่งดังมาจากสาขาแรกที่โอกินาว่า เนื้อสเต็กที่ทางร้านเลือกนำมาใช้เป็นเนื้อที่ดีที่มีคุณภาพยอดเยี่ยม เนื้อนุ่มละลายในปาก ซึ่งถ้าหากใครเคยลองทานร้านสเต็ก Ikinari steak ที่มีหลายสาขามากมายทั่วญี่ปุ่นมาก่อน ก็ว่าดีแล้ว แต่ถ้าได้มาเปรียบเทียบกับ Yappari Steak คุณแทบจะลืม Ikinari Steak ไปเลยทีเดียว

ร้านนี้ปัจจุบันยังมีจำนวนสาขาน้อยมากๆ จากการสอบถามพนักงานที่ร้านในโอซาก้า พนักงานบอกว่าทางเจ้าของเลือกเฉพาะคนที่สนิทมาเปิดร้านอยู่ในตอนนี้ ซึ่งทำให้จำนวนสาขายังมีไม่มากนัก แม้แต่ในโตเกียวก็ยังหาทานยาก

สำหรับความพิเศษของทางร้านนี้ก็คือ เนื้อวัว จะคัดสรรมาอย่างดี เนื้อแต่ละชิ้นนุ่มและย่างด้วยเวลาที่พอเหมาะ ทำให้ตัวเนื้อสเต็กมีความอร่อยอย่างลงตัวมากๆ อีกทั้งราคายังเป็นมิตรสุดๆ จากในภาพข้างล่าง ขนาด 360 กรัม ราคาเพียง 1,980 เยนเท่านั้น ( ตกประมาณ 554 บ.) ซึ่งถ้าใครเคยทานสเต็กในกรุงเทพมา บอกได้เลยว่าไม่ต่ำกว่า 1,500 บาท สำหรับคุณภาพใกล้เคียงกัน

ส่วนซ้อสสำหรับย่างเนื้อก็มีให้จำนวนมาก มีทั้ง กาลิคซ้อส ( ซ้อสกระเทียม) , ซ้อสยากินิคุเปรี้ยว,ซ้อสบาบีคิว, ซ้อสยากินิคุ ,วาซาบิสด, พริกไทยดำ , เกลือ , กระเทียมป่น

เครื่องเคียงก็มี สลัดผัก น้ำซุป และข้าวญี่ปุ่น ,ข้าวซ้อมมือญี่ปุ่น ไว้ให้เติมไม่อั้น

ราคาก็ไม่แพง เริ่มต้นที่ 500 yen เท่านั้น แต่ถ้าสั่งเป็นชิ้นเริ่มต้นส่วนใหญ่ก็จะราวๆ 1000 yen ขึ้นไป ซึ่งถ้าคิดเป็นเงินบาท ก็แค่เพียงประมาณ 280 บาท ( ใช้เรท 28.00 บาท/100 yen ในเดือน กุมภาพันธุ์ 2020)

การเดินทางมาร้าน Yappari

ร้านอยู่สถานี Kyobashi Station , south Exit ซึ่งร้านจะอยุ่ในซอยเล็กๆ และขึ้นไปชั้น 2 หน้าร้านจะมีป้ายเด่นชัด

เวลา เปิด ปิด :

11:00~22:30 (L.O.22:00)
Open on sundays

สุดท้ายนี้ ใครก็ตามที่มาเที่ยวโอซาก้า แล้วหาร้านเนื้อสเต็กชั้นดีในราคาไม่แพงอยู่ ต้องมาลองร้านนี้ให้ได้ คุณภาพและราคาคุ้มค่าจริงๆ

หาตั๋วเครื่องบินราคาถูกคลิกที่นี่

ชอบกด Like ใช่กด Share ^-^

หากคุณแวะเวียนมาเที่ยว kyoto เราแนะนำให้คุณต้องมาลอง ร้าน Nikuya Ginjiro ร้านเนื้อวากิวและเนื้อ kobe ราคาไม่แพง และเนืัอสุดอร่อย

IMG_20190408_200959IMG_20190408_195231

 

 

การไป  arashiyama จากosaka ด้วยบัตร kansai thru pass

เริ่มต้นให้เราเดินทางไปที่สถานี umeda ทำการขึ้นรถไฟสาย Hankyu เพื่อไปต่อรถไฟที่สถานี katsura station

IMG_20190408_135403

 

 

ต้องสังเกตดีๆ เพราะบางคันจะไปโกเบ (ขึ้นผิดมาแล้ว)

Screenshot_20190408-135840

 

 

 

 

 

 

 

 

shellnell-entrance

สวัสดีครับ พอดีผมได้มีโอกาสกลับมาเที่ยวที่ Osaka อีกรอบ ในต้นเดือนเมษายน 2562  เพราะตั๋วตอนนี้ถูกกว่าหลังสงกรานมาก พอเห็นตั๋วเลยรีบจองทันที

คืนแรกก็ทำการจองที่ Shell Nell by WBFอยู่บนย่าน Namba ซึ่งการเลือกที่นี่ก็ไม่มีอะไรมาก รูปในเว็บคือดูสะอาดดี และรีวิวเรทติ้ง 9 นิดๆ

68055478

shell-nell-namba--080620161101087118-1

แต่พอได้เข้ามาพักแล้วก็รู้สึกติดใจที่นี่มาก เหตุผลหลักๆคือ สะดวก สะอาด ใกล้ย่านสำคัญ และร้านอาหารดีๆอยู่ใกล้มากมายครับ

ขั้นตอนการเข้ามาพักที่นี่ก็ไม่มีอะไรมากครับ พอมาถึงแล้วเราก็ทำการ check in โดย passport ของเรา

เขาก็จะให้เอากระเป๋าเดินทางเราและกุญแจลอคมาหนึ่งอันเพื่อเข้าไปเก็บในห้องเก็บกระเป๋าของเขา

จากนั้นเขาจะให้กุญแจลอคเกอร์มา ซึ่งกุญแจลอคเกอร์อันนี้ จะใช้ในการเปิดเข้าห้องพัก (คือแยกฝั่งชาย หญิง)

ทางเดินเข้าไปห้องพักอยู่ชั้น 1
ทางเดินเข้าไปห้องพักอยู่ชั้น 1

หลังจากเข้าไปในห้องพักฝั่งผู้ชาย ก็จะเจอลอคเกอร์ต่างๆ ให้เราไปไขลอคเกอร์ตามหมายเลขบนกุญแจ เพื่อเก็บสัมภาระส่วนตัว ( ไม่ใหญ่มากนัก) ซึ่งภายในลอคเกอร์จะมีถุงยังชีพ 555 คือถุงที่ทาง hostel เตรียมไว้ให้เรา ภายในจะมีผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า รองเท้าแตะ , แปรงสีฟัน และชุดใส่เดินภายใน hostel อีกหนึ่งชุด

ซึ่งแต่ละวันจะต้องเอามาคืนเขาที่ front ก่อน 10 โมงเช้าทุกวันครับ

เข้ามาใน hostel จะเจอเหมือนคาเฟ่เล็กๆให้นั่งทำงาน หรือซื้ออาหารเข้ามากินได้ มีกาแฟราคา 100 เยน สำหรับแขกที่มาพัก (กดจากเครื่อง)

215816

ในห้องนอนก็จะมีห้องอาบน้ำเป็นแบบ Shower ซึ่งสะอาด และมีแชมพู ครีมอาบน้ำ ครีมนวดไว้พร้อม ( hostel บางที่ในญี่ปุ่นจะเป็นอาบรวมแบบออนเซ็น) ไม่มี shower แยก

โซนอ่างล้างหน้า ก็จะมีมีดโกนหนวด , hair tonic , hair lotion, และ after shave ไว้ให้บริการ

215801 215797 215798 1145680_17052911270053291798

การเดินทางจากสนามบิน Kansai (Kik) มาที่ Shell Nell Namba by WBF

ผมเลือกใช้ Nankai airport express train มาลงที่ namba station ใช้เวลาเดินทางเพียง 45 นาที และ ค่ารถไฟเพียง 920 yen ซึ่งรู้สึกจะถูกที่สุดเท่าที่เจอ

พอมาลงสถานี namba ก็เดินต่อมาเพียง 5 นาทีก็ถึงตัว hostel ครับ สะดวกจริงๆ

สำหรับการจองก็สามารถทำได้โดยไป จองที่นี่ 

สำหรับใครที่กำลังเดินทางมาเที่ยวโอซาก้า และกำลังหาที่พักราคาประหยัดอยู่ Shell nell namba hostel ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีตัวนึงเลยนะครับ ในราคาไม่แพง แถมสะดวกสบาย

 

สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด ซึ่งโดยปกติแล้วมีมากมายนับไม่ถ้วนในกรุงโตเกียว เราได้รวบรวมข้อมูลมาจากเว็บไซต์ตะลอนแจแปน และคัดสรรเฉพาะฮอตสปอทมาบอกต่อกัน ได้แก่

– โตเกียว ทาวเวอร์ หอคอยที่ได้ชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของโตเกียว ซึ่งถ้าจะให้ดี ควรจะไปตอนกลางคืน แสงไฟจากหอคอยและแสงสียามค่ำคืนของโตเกียวจะทำให้ที่นี่ยิ่งดูสวยกว่าตอนกลางวันมาก และถ้าสนใจอยากดูวิวด้านบน ก็มีบริการให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมได้ด้วย

– มหาวิทยาลัยโตเกียวหรือโทได แต่ต้องไปตอนฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ประมาณเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ซึ่งใบแป๊ะก๊วยที่ปลูกอยู่เรียงรายในโทไดจะกลายเป็นสีเหลืองสดใสปกคลุมไปทั่วทั้งพื้นที่ นอกจากนี้ ภายในมหาวิทยาลัยก็ยังมีสิ่งปลูกสร้าง สถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่น่าสนใจให้ได้ชมกันด้วย

– ศาลเจ้าเมจิ ศาลเจ้าประจำวัดในนิกายชินโต ที่มีเสาโทริอิไม้โดดเด่นเป็นสง่าอยู่ด้านหน้าทางเข้า ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมทั้งชาวญี่ปุ่นเองนิยมมาอธิษฐานขอพร และเดินเที่ยวชม ความสวยงามท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นของศาลเจ้า

ในส่วนของเรื่องอาหารการกินในโตเกียว ก็มีร้านอาหารและขนมมากมายในทุกระดับราคา เช่น อาหารสำเร็จรูปในร้านสะดวกซื้อสำหรับคนที่ต้องการความสะดวก และประหยัด ส่วนอาหารตามร้านหรือคาเฟ่ในย่านต่างๆก็มีทั้ง ราเมน ข้าวปั้น หรือคาเฟ่น่ารักๆ ที่เน้นขายขนม และที่น่าสนใจและควรจะลองดูสักครั้งก็คือตู้เกมสล็อต หรือปาจิงโกะ ที่ถือเป็นกิจกรรมคู่กับชาวญี่ปุ่นมาช้านาน เรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม ซึ่งหากใครเคยได้ลองเล่นเกมนี้แบบออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ 12bet มาแล้ว การได้มาลองเครื่องสล็อตของจริงน่าจะทำให้ตื่นเต้นยิ่งขึ้น นอกจากนี้สิ่งที่น่าสนใจยังมีร้านอาหารแบบตู้กดที่มีอยู่ทั่วโตเกียว วิธีการก็ไม่ยากเลยแค่เลือกเมนูและหยอดเหรียญตามราคาอาหารเท่านั้น ก็จะได้บัตรรายการอาหารกับเครื่องดื่มที่ต้องการออกมา จากนั้นก็นำไปให้พนักงานแล้วรออาหารมาเสิร์ฟถึงโต๊ะ

tokyo-tower-tea-ceremony-and-sumida-river-cruise-day-tour-in-tokyo-115671

6929_01
Gotemba 5th Station เป็นสถานีขึ้นเขาฟูจิที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกน้อยที่สุดเมื่อเที่ยบกับสถานี 5th Station อีกสี่แห่ง โดยที่ Gotemba 5th Station มีแค่ร้านค้าเล็กๆ หนึ่งร้าน มีป้ายรถเมล์หนึ่งป้าย มีห้องน้ำและที่จอดรถเท่านั้นเอง
6901_11
× How was it?
Gotemba 5th Station อยู่ที่ความสูง 1,400 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เป็นสถานีขึ้นเขาที่ต่ำที่สุดในบรรดา 5th Stations ทั้งหมด เพราะฉะนั้นจากจุดนี้ Gotemba Trail จึงเป็นเส้นทางขึ้นเขาที่ยาวที่สุดด้วย โดยใช้เวลาขึ้นเขาจนถึงยอดทั้งหมด 7 – 10 ชั่วโมง โดยภูมิประเทศจะเป็นหินลาวาและมีกระท่อมพักข้างทางเพียงไม่กี่หลังในระดับสถานีที่ 7 และ ที่ 8 เท่านั้น
6929_03
สำหรับขาลงนั้น เส้นทางนี้มีความได้เปรียบตรงภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยหิน จะมีช่วงเดียวที่เป็นเนินทราย เรียกว่า Osunabashiri แท้จริงแล้วเป็นลานเนินกว้างใหญ่เต็มไปด้วยหินกรวดลาวาก้อนเล็กๆ เราสามารถไถลตัวลงมาได้ย่นระยะทางไปกว่าหนึ่งในสามของเส้นทางทั้งหมด (แต่ขาขึ้นค่อนข้างลำบาก) เพราะฉะนั้น ขาลงตามเส้นทาง Gotemba Trail จะใช้เวลาแค่ 3-6 ชั่วโมง เท่านั้น (ใช้เวลาเท่าๆ กันกับเส้นทางลงเส้นอื่น)

6901_03

 

วิธีการเดินทาง

รถบัสไปยัง Gotemba 5th Station

จาก Gotemba Station:
1,110 yen (เที่ยวเดียว), 1,540 yen (ไปกลับ), ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที
มีรถให้บริการ 4-7 เที่ยวไปกลับต่อวันในช่วงฤดูกาลปีนเขา
มีรถให้บริการ 3 เที่ยวไปกลับต่อวันในช่วงนอกฤดูกาลเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดเท่านั้น
Bus Timetable (climbing season)
Bus Timetable (off-season)

 

นิกโก้ (Nikko) เป็นเมืองหน้าด่านสู่อุทยานแห่งชาตินิกโก้ มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องของความสวยงามของธรรมชาติและศาลเจ้ามากมาย ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของ UNESCO เช่น ศาลเจ้าโทโชกุ ที่เป็นสุสานของ Tokugawa Leyasu ผู้สถาปนารัฐทหารและเป็นโชกุนคนแรกของตระกูล Tokugawa ทีปกครองประเทศญี่ปุ่นในยุคเอโดะกว่า 200 ปี

photoAllNikko01

image source: tobu.co.jp

นิกโก้เป็นศูนย์กลางของศาสนาพุทธนิกายชินโตมานานหลายศตวรรษก่อนที่ศาลเจ้าโทโชกุจะถูกสร้างในราวปี ค.ศ. 1600

นอกจากอารามสถานแล้ว อุทยานแห่งชาตินิกโก้ยังมีธรรมชาติและทัศนียภาพที่สวยงาม ทั้งภูเขา ทะเลสาบ น้ำตก น้ำพุร้อน ลิงป่า และเส้นทางเดินป่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งรอบๆ ทะเลสาบ Chuzenji อันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเพราะมีธรรมชาติและต้นไม้ที่มีสีสันที่งดงามเลื่องชื่อ ต้นไม้บริเวณนั้นจะเริ่มเปลี่ยนสีจากด้านบนในราวๆ ต้นตุลาคมและจะทยอยเปลี่ยนสีเรื่อยมาจนถึงบริเวณรอบๆ ทะเลสาบในกลางตุลาคมที่เป็นช่วงที่สวยที่สุด จนเปลี่ยนสีสันทั้งหมดในตัวเมืองนิกโก้ราวๆ ต้นพฤศจิกายน ของทุกปี

141021_nikko_06
nikko-bridge-800x500

นอกจากนี้ เมืองนิกโก้ยังอยู่ในเส้นทางสายโรแมนติกของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย
นิกโก้อยู่ห่างจากโตเกียวแค่ 125 กิโลเมตร สามารถเดินทางมาเที่ยวแบบไป-กลับได้ ภายในวันเดียว ในตัวเมืองนิกโก้จะมีสถานีรถไฟอยู่สองสถานีคือ Tobu Nikko Station และ JR Nikko Station

วิธีเดินทางจากโตเกียว ไปยัง นิกโก้

  • สำหรับคนที่มี JR PASS สามารถใช้ได้โดยไปขึ้นที่ สถานี Ueno หรือ Tokyo Station แล้วนั่งชินคังเซนไปต่อรถที่สถานี Utsunomiya แล้วขึ้น JR NIKKO การเดินทางจะรวดเร็วและฟรี อ่านรายละเอียดด้านล่าง
  • หรือ นั่งรถไฟสาย JR แล้วไปต่อ 1 ครั้งที่สถานี Utsunomiya ใช้เวลา 3 ชั่วโมง ราคา 2,590 เยน

สำหรับคนที่ไม่มี JR PASS สามารถให้บัตร Tobu Nikkon Pass ได้ หรือเลือกเดินทางจากสถานีที่ใกล้ที่พักเราได้เลย จากสถานีรถไฟชินจูกุ (Shinjuku)

  •  มีรถไฟตรงสายด่วนจาก JR Shinjuku ไปยัง Tobu Nikko ใช้เวลา 2 ชั่วโมง ราคา 4,000 เยน ขาออกจากชินจูกุมีรอบ 7:30 และ 8:21 น. เท่านั้น ส่วนขากลับจาก Tobu Nikko มีรถไฟเวลา 16:39น. และ 17.02น. เส้นทางนี้ใช้ได้กับ JR EAST PASS และ JR KANTO PASS เท่านั้น ไม่สามารถใช้ JR PASS ได้

จากสถานีรถไฟอูเอโนะ (Ueno) หรือโตเกียว (Tokyo Station)
นั่งชินคันเซนสาย Jr Tohoku จากสถานี Ueno หรือ สถานี Tokyo ไปลงที่สถานีอุทสุโนมิยะ (Utsunomiya) แล้วเปลี่ยนเป็นรถไฟสาย JR Nikko ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมงครึ่ง เที่ยวเดียวราคา 5,580 เยน สามารถใช้บัตร JR PASS, JR EAST PASS และ JR KANTO AREA PASS มีรถชั่วโมงละหลายรอบ

จากสถานีรถไฟอาซากุสะ (Asakusa)

สถานีอาซากุสะจะมีส่วนหนึ่งเป็น Terminal ของรถไฟสาย Tobu ที่จะวิ่งตรงไปที่ Nikko สถานีจะอยู่ติดกับสถานีใต้ดิน Asakusa ของสาย Ginza และ จาก Asakusa จะมีรถไฟด่วนไปที่ Tobu Nikko ทุกๆ ชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ราคา 1,360 เยน จะมีแบบด่วนพิเศษที่ต้องจองก่อน ใช้เวลาเดินทางแค่ชั่วโมงครึ่ง แต่ราคาจะสูงขึ้นมาที่ 2,720 เยน มีรอบไม่เยอะ และไม่สามารถใช้กับบัตร JR ทุกประเภท แต่จะมีแพกเกจส่วนลดจาก Tobu แบบ 1 วัน และ 2 วันที่จะรวมค่าตั๋วไปกลับและค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว

tochigi_nikko_toshogu_shrine_3

tochigi_nikko_jizo