Ad
Ad
Ad
Tag

โตเกียว

Browsing

เรื่องและภาพ โดย สวาเก้น

Tokyo_23 Odaiba Overall 01สถานที่พักผ่อนหย่อนใจในโอไดบะนั้นมีหลายแห่ง เริ่มจากโซนชายหาดและสวนสาธารณะเลียบชายหาดที่ตรงจุดนี้เราจะเห็นวิวอันสวยงามและยิ่งใหญ่ของเมืองโตเกียว ที่รายล้อมพระเอกแห่งเกาะโอไดบะอย่าง สะพานสายรุ้ง (Rainbow Bridge)อันเป็นเส้นทางหลักที่เชื่อมเกาะกับแผ่นดินใหญ่ ซึ่งสะพานแห่งนี้เป็นสะพานแขวนสองตอนที่มีเอกลักษณ์อันโดดเด่นและเป็นหนึ่งในวิวที่สวยงามที่สุดมุมหนึ่งของโตเกียวอีกด้วย (โดยเฉพาะยามค่ำคืน) แลนด์มาร์กอีกอย่างที่อยู่บริเวณสวนสาธารณะด้านหน้าหาดนั้นก็คือ อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพจำลอง ที่ตั้งตระหง่านอยู่หน้าอ่าวอันเป็นจุดชมวิวและจุดถ่ายรูปยอดนิยมของโอไดบะอีกวิวหนึ่ง

Tokyo_23 Odaiba Overall 02 Tokyo_23 Odaiba Overall 03

ภายในเกาะนั้นเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญๆ มากมาย อาทิ Fuji TV (www.fujitv.co.jp) สำนักงานใหญ่ที่ตัวตึกนั้นโดดเด่นมีเอกลักษณ์จนแทบจะเป็นสัญลักษณ์หลักอีกอย่างหนึ่งของโอไดบะเลยทีเดียว ซึ่งทรงกลมที่อยู่กลางตึกนั้นเราสามารถขึ้นไปชมวิวในมุมสูงได้อีกด้วย, ตึกที่โดดเด่นอีกตึกนั้นก็คือ National Museum of Emerging Science หรือที่รู้จักกันในชื่อย่อว่า Miraikan (www.miraikan.jst.go.jp) นั่นเอง นอกจากความทันสมัยของการออกแบบอาคารแล้วด้านในยังจัดแสดงนิทรรศการเทคโนโลยีของญี่ปุ่นไว้อย่างน่าสนใจ แล้วที่นี่ก็ยังเป็นสถานที่ที่จัดแสดงหุ่นยอดฮิตอย่าง Asimo อีกด้วย, อีกตึกที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีก็คือ Tokyo Big Sight ศูนย์จัดแสดงนานาชาติของญี่ปุ่นที่ยิ่งใหญ่และมีตัวตึกรูปทรงเรขาคณิตสุดล้ำอย่างเป็นเอกลักษณ์โดยที่นี่เป็นสถานที่จัดงานสำคัญๆ มากมาย อาทิ Tokyo Motor Show ไปจนถึง Tokyo International Anime Fair อันโด่งดังนั่นเอง Tokyo_23 Odaiba Overall 04 Tokyo_23 Odaiba Overall 05

พูดถึงแหล่งเอ็นเตอร์เทนและแหล่งช้อปปิ้งกันบ้าง (ซึ่งส่วนใหญ่อยู่รวมกัน) สองตึกแรกที่แนะนำนั้นก็คือ Decks Tokyo Beach กับ Aquacity Odiba ที่อยู่ติดกัน และอยู่ด้านหน้าตึก Fuji TV นั่นเอง สำหรับ Decks Tokyo Beach (www.odaiba-decks.com) นั้นเป็นที่ตั้งของร้านรวงช้อปปิ้งมากมาย แต่สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่ซ่อนตัวอยู่ในนี้นั้นก็คือ LEGOLAND Discovery Center (www.legolanddiscoverycenter.jp) กับสวนสนุกเลโก้ในร่มที่สร้างสรรค์จากตัวต่ออันแสนคลาสสิกที่สุดในโลกนี้ ซึ่งภายในมีจัดแสดงตั้งแต่ตัวต่อเลโก้รูปต่างๆ ไปจึงถึงเครื่องเล่นมันส์ๆ ที่ราวกับเป็นตัวต่อขยายส่วน, Madame Tussauds Tokyo (www.madametussauds.com/tokyo) พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งอันมีชื่อเสียงของโลกสาขาโตเกียว, JOYPOLIS (tokyo-joypolis.com) สวนสนุกในร่วมที่มันส์ด้วยเทคโนโลยีล้ำๆ และโลกแห่งเกมส์ต่างๆ ที่มารวมกันไว้ในตึกเดียว, Tokyo Trick Art Museum (www.trickart.info) พิพิธภัณฑ์ภาพลวงทางศิลปะแห่งแรกของโลกที่กำลังฮิตไปทั่วโลกขณะนี้, แล้วของเด็ดที่ห้ามพลาดนั้นก็คือ Odaiba Takoyaki Museum ที่ยกพิพิธภัณฑ์ทาโกะยากิจากโอซาก้ามาเปิดสาขาที่โตเกียว ซึ่งในโซนนี้มีทาโกะยากิร้านดังจากคันไซหลายร้านมาเปิดความอร่อยกันแบบสดๆ ใหม่ๆ ในสูตรดั้งเดิมให้ได้ชิมกันจนเพลิน, สำหรับ Aquacity Odiba (www.aquacity.jp)นั้นนอกจากจะมีร้านช้อปปิ้งดังๆ มากมายแล้วด้านบนยังเป็นที่ตั้งของ Sony ExplorScience ให้เราได้ลองสัมผัสกับความสุขของเทคโนโลยีที่มีประสบการณ์แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร Tokyo_23 Odaiba Overall 06 Tokyo_23 Odaiba Overall 07 Tokyo_23 Odaiba Overall 08 Tokyo_23 Odaiba Overall 09 Tokyo_23 Odaiba Overall 10

แหล่งช้อปปิ้งใน Odiaba นั้นยังมีอีกหลายจุด อย่าง 2 ห้างดังที่คนนิยมไปช้อปนั้นก็คือ Venus Front ที่มีร้านเก๋ๆ และที่สำคัญก็คือ Outlet ของแบรนด์ดังอยู่หลายร้าน ซึ่งห้างนี้อยู่บริเวณเดียวกันกับ Toyota Mega Web (www.megaweb.gr.jp) โชว์รูมและแหล่งเรียนรู้เทคโนโลยียานยนต์ขนาดใหญ่ครบวงจร แล้วก็ยังรวมไปถึงชิงช้าสวรรค์สายรุ้งที่เป็นสัญลักษณ์ดังของย่านนี้อีกด้วย, แต่ที่ขอบอกว่าห้ามพลาดเด็ดขาดนั้นก็คือ DiverCity Tokyo Plaza (www.divercity-tokyo.com) ที่อยู่ใจกลางเกาะ ห้างใหม่นี้เต็มไปด้วยร้านค้าทันสมัยเพียบ แต่จุดเด่นอันเป็นเสมือนแลนด์มาร์คใหม่ของโอไดบะนั้นก็คือหุ่นยนต์กันดั้มขนาดยักษ์ที่โด่งดังซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าห้าง และเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมที่สุดในขณะนี้ โดยด้านข้างนั้นนอกจากจะมีร้านขายหุ่นยนต์กันดั้มแบบเป็นทางการแล้วนั้น ก็ยังมี Gundam Café ที่กาแฟนั้นคัดสรรเป็นอย่างดี แถมแต่หน้าฟองนมให้เป็นรูปกันดั้มอีกด้วย แต่ถ้าใครอยากจะรู้จักกันดั้มมากขึ้นกว่านี้นั้นแนะนำให้ขึ้นไปที่ชั้น 7 เพราะด้านบนนั้นมี Gundam Front Tokyo ที่จัดแสดงหุ่นต่อพลาสติกหลายรุ่นหลายแบบรวมไปถึงพิพิธภัณฑ์กันดั้มที่จัดแสดงเรื่องราวของหุ่นยนต์ไว้อย่างน่าดูเชียวล่ะ

 

Tokyo_23 Odaiba Overall 11 Tokyo_23 Odaiba Overall 12 Tokyo_23 Odaiba Overall 13

โอไดบะ (Odaiba)

ที่ตั้ง :เขตโอไดบะ, โตเกียว

วิธีเดินทาง :

ขั้นตอนที่ 1 :นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย G-Ginza Line, นั่งรถไฟใต้ดิน Toei Line สาย A-Asakusa Line ลงที่สถานี G08/A10-Shimbahi / หรือนั่งรถไฟ JR สาย Yamanote Line (สายวงกลมสีเขียว) ลงที่สถานี Shimbashi

ขั้นตอนที่ 2 :เสร็จแล้วต่อรถไฟสาย Yurikamome Line ที่สถานี Shimbashi (สถานีเริ่มต้น) เพื่อข้ามไปยังโอไดบะ และเลือกลงสถานีที่ต้องการ

หาตั๋วเครื่องบินราคาถูกคลิกที่นี่

ชอบกด Like ใช่กด Share ^-^

แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของโตเกียวที่สามารถมองเห็นได้จากที่ไกลๆ คือ Tokyo Skytree ที่นับว่าเป็นหอคอยที่สูงที่สุดในโลกด้วยความสูงที่ 634 เมตร โดยได้รับการบันทึกจากสถิติกินเนสบุ้ค (วันที่ 17 พฤษภาคม 2011)

8386517382_2319ba8b11_z

9359590787_7e3ac00cd2_z
Skytree

เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกๆ ที่เปลี่ยนระบบสัญญาณโทรทัศน์จากแบบอนาล็อกมาเป็นระบบดิจิทอล  จึงได้มีการริเริ่มการสร้างหอคอยแห่งใหม่ขึ้นมาเพื่อให้เป็นจุดส่งสัญญาณที่ต้องสูงยิ่งกว่าตึกระฟ้าที่มีการสร้างเพิ่มขึ้นทุกวันในโตเกียว และยังจะใช้เป็นจุดส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถืออีกด้วย เพราะฉะนั้น รัฐบาลญี่ปุ่นจึงเริ่มสร้าง Tokyo Skytree ขึ้นในปี 2008 แล้วสร้างเสร็จ ปี 2011 และเพิ่งเปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าไปชมตึก Tokyo Skytree ได้เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2012 นี่เอง จึงนับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ล่าสุดของโตเกียว

จุดชมวิวของ Tokyo Skytree จะมีสองระดับ คือ ระดับความสูงที่ 350 เมตร และระดับความสูงที่ 450 เมตร โดยจะมีลิฟต์รับส่งที่เรียกว่า Tembo Shuttle ขึ้นลงที่ความเร็ว 600 เมตร ต่อนาที นับว่าเป็นลิฟต์ที่วิ่งเร็วที่สุดในญี่ปุ่น และสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้มากถึง 40 คนต่อเที่ยว

เจ้าลิฟต์ Tembo Shuttle จะพานักท่องเที่ยวขึ้นไปที่ชั้น Tembo Deck ของ Tokyo Skytree ภายในเวลาเพียง 50 วินาที เท่านั้น

ใครที่กังวลเรื่องแผ่นดินไหวหรือลมพายุกรรโชกแรง ขอให้หายห่วง เพราะโครงสร้างของเจ้า Tokyo Skytree นั้นเป็นโครงสร้างที่สามารถควบคุมแรงสั่นสะเทือนได้ เหมือนกับโครงสร้างรูปทรงเจดีย์โบราณของญี่ปุ่น

8179025668_218884f5fb_z

8705106212_f8480b5af8_z

จุดชมวิว มีสองระดับชั้น มีชื่อเรียกดังนี้

Tembo Deck ชั้น 340, 345, 350 จุดเด่นที่ระดับนี้คือพื้นแก้วหนาที่ทนทานต่อความสูงระดับนี้ ที่ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถมองลงไปด้านล่างและเห็นถึงความอัศจรรย์ของโครงสร้างเหล็กที่สวยงามของเจ้า Tokyo Skytree นี้

7278769282_bf73cfa931_z

Tembo Galleria ชั้น 445 – 450 จะเป็นระเบียงยาวต่อเนื่องประมาณ 110 เมตร มองวิวได้โดยรอบ แถมระหว่างเดินจะมีเสียงสภาพภูมิอากาศจำลองประกอบ โดยเสียงจะถูกปรับให้เข้ากับอากาศด้านนอกในแต่ละฤดู

9250281416_9bf83aa117_z

นอกจากจุดชมวิวและเสาส่งสัญญาณด้านบนแล้ว Tokyo Skytree ยังมีห้างสรรพสินค้าครบวงจรและพิพิธภัณฑ์อยู่ในพื้นที่ที่เรียกว่า Tokyp Skytree Town ที่ถูกสร้างให้เป็นเมืองเชื่อมต่อระหว่างสถานีรถไฟ Tokyo Skytree กับสถานี Oshiage

วิธีการเดินทาง
สถานีรถไฟใต้ดิน Tokyo Skytree

undergroundB

จุดขายบัตรขึ้น Tokyo Skytree จะอยู่ที่ชั้น 4  

ticketcounter

ticket

วิธีการซื้อตั๋วนั้น หากเรามีบัตรวีซ่าที่ออกโดยแบงค์ญี่ปุ่นเราจะสามารถจองเวลาเข้าชมได้ซึ่งจะการันตีว่าจะได้ขึ้นชมได้แน่ๆ ซึ่งวิธีนี้จะไม่ค่อยสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวไทยทั่วไป การซื้อบัตรออนไลน์ล่วงหน้านั้นมีให้บริการแต่เวปไซด์จะเป็นภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น

นักท่องเที่ยวทั่วไปจะต้องไปซื้อตั๋วที่ชั้น 4 ในวันที่จะเข้าชม และอาจจะต้องต่อคิวเพื่อขึ้นไปด้านบนหากวันนั้นๆ มีปริมาณนักท่องเที่ยวมาก

เวลาเปิดและปิด: 8.00 – 22.00น. ทุกวัน

 ราคาบัตร

ประเภทตั๋ว ผู้ใหญ่ (18ปีขึ้นไป) ผู้เยาว์ (12 – 17 ปี) เด็ก (6 – 11 ปี) เด็กก่อนวัยเรียน
Tembo Deck (350m) Day Ticket (ไม่ระบุเวลา) ¥2,000.00 ¥1,500.00 ¥900.00 ¥600.00
Advance Purchse (ระบุเวลา) ¥2,500.00 ¥2,000.00 ¥1,400.00 ¥1,100.00
Tembo Galleria (450m) บัตรเข้าชมต่อวัน ¥1,000.00 ¥800.00 ¥500.00 ¥300.00

Website: http://www.tokyo-skytree.jp/en/