Ad
Ad
Ad
Tag

เที่ยวโอซาก้า

Browsing

มาโอซาก้าแล้วไม่ได้มาถ่ายรูปกับพี่กูลิโกะถือว่ามาไม่ถึงโอซาก้าทีเดียว เจ้าป้ายไฟกูลิโกะขนาดยักษ์กลายเป็นสัญลักษณ์คู่เมืองโอซาก้าที่โด่งดังไปทั่วโลก เจ้าป้ายนี้อยู่ที่ย่านโดทงโบรินี่แหละค่ะ

การเดินทาง: สถานีรถไฟนัมบะ (Namba Station)

IMG_6376

ที่เคยคิดว่าญี่ปุ่นนั่นช่างเรียบง่าย อะไรๆ ก็ดูมินิมอลลิสต์ เราจะลืมมันสิ้นเมื่อมาที่ย่านโดทงโบริ เพราะที่นี่เป็นย่านที่รวบรวมความ “เยอะ” ของญี่ปุ่นไว้ทั้งหมด ความวุ่นวาย แสงสีและเสียงตะโกนโหวกเหวกขายของรวมอยู่ในย่านบันเทิงแห่งนี้ที่เดียว นี่แหละเสน่ห์ของเมืองโอซาก้าที่ไม่เหมือนใคร

IMG_6343

ประวัติของย่านโดทงโบรินั้นเริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 1612 เมื่อพ่อค้านามว่า ยุซุอิ โดทง ได้ขุดขยายแม่น้ำเพื่อเพิ่มรายได้จากการค้า ต่อมาพ่อค้าท่านนี้ได้เสียชีวิตลงกลางศึกที่ข้าศึกล้อมเมืองโอซาก้าไว้ หลานชายของเขาได้สานต่อภารกิจขยายคลองและมีการขนานนามชื่อคลองและถนนเลียบคลองตามชื่อของปู่ของเขาที่เป็นคนริเริ่ม จึงกลายมาเป็นชื่อ โดทงโบริ ที่เราใช้เรียกกันในปัจจุบัน แต่เดิมย่านนี้เป็นแหล่งบันเทิงเต็มรูปแบบมีทั้งโรงละครคาบูกิ โรงละครบุนระกะ แต่โรงละครเหล่านี้ถูกทำลายลงจนหมดสิ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

ปัจจุบันนี้ย่านโดทงโบริขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งร้านค้า ร้านอาหารและมีร้าปาจิงโกะร้านเกมส์เพื่อความบันเทิงอย่างครบครัน

IMG_6367

สัญลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร นอกจากป้ายไฟกูลิโกะแล้ว ยังเป็นป้ายร้านอาหารแต่ละร้านที่ขยันทำให้ใหญ่โตมโหฬารไม่เหมือนใคร เช่นร้าน ร้านปูยักษ์ Kani Doraku ที่มีชื่อเสียงของย่านโดทงโบริ เดินเข้าไปจะเห็นเด่นมาแต่ไกล ร้านเกี๊ยวซ่าพร้อมป้ายรูปเกี๊ยวซ่าเซ็ตขนาดใหญ่ ร้านทาโกยากิไส้ปลาหมึกไซส์ใหญ่การันตีได้จากเจ้าปลาหมึกยักษ์สีแดงบนป้ายหน้าร้าน หรือร้าน Zubora ที่มีปลาปักเป้ายักษ์ตัวกลมๆ แขวนลอยเด่นอยู่หน้าร้าน

 CrabOsaka18

ที่นี่ยังมีศูนย์รวมร้านอาหารและการแสดงต่างๆ รวมไปถึงกิจกรรมล่องเรือท่องแม่นำ้ทงโบริด้วย

IMG_7294

IMG_6400

 

หาตั๋วเครื่องบินราคาถูกคลิกที่นี่

ชอบกด Like ใช่กด Share ^-^

ปราสาทโอซาก้า( Osaka Castle)

IMG_6497

ตัวปราสาทโอซาก้าถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1583 แทนที่วัดโอซาก้า ฮอนกันจิ (Osaka Hongan-ji) โดย โทโยโตมิ ฮิเดโยชิ (Toyotomi Hideyoshi) ผู้ซึ้งเป็นนักรบระดับไดเมียวผู้พยายามรวบรวมประเทศเป็นครั้งแรกโดยตั้งใจให้ปราสาทแห่งนี้เป็นศูนย์กลางใหม่ของญี่ปุ่นภายใต้การปกครองของท่าน ภายหลังการสร้างเสร็จก็ได้กลายเป็นปราสาทที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นในขณะนั้น

ในปีค.ศ. 1615 หลังจากสงคราม Osaka Natsu No-jin ตระกูลโทโยโทมิ ถูกฆ่าล้างโคตร และยอดปราสาทถูกทำลายลงย่อยยับ ต่อมาได้รับการบูรณะใหม่ก็ถุฟ้าผ่าเสียหายย่อยยับอีกครั้งหนึ่ง ทำให้ปราสาทโอซาก้าไม่มียอดปราสาทนานหลายปี จนกระทั้งปี ค.ศ. 1931 นายกเทศมนตรีเมืองโอซาก้าได้ขอรับเงินบริจาคจากชาวเมืองจำนวนหนึ่งล้านห้าแสนเยน เพื่อมาบูรณะปราสาทใหม่

ยอดประสาทหรือส่วนที่เรียกว่า Tenshukaku แล้วเสร็จลงสองปีต่อมา แต่หลังจากสงคราม Osaka Natsu No-jin ในปีค.ศ.1615 ตระกูล Toyotomi ถูกฆ่าล้างโคตร Tenshukaku ก็ถูกทำลายลงย่อยยับ ต่อมาได้รับการบูรณะใหม่ในสมัย Tokugawa แต่น่าเสียดายที่ในปีค.ศ.1665 ได้ถูกฟ้าฝ่าเสียหายย่อยยับอีกครั้งหนึ่ง ทำให้ปราสาทโอซาก้าไม่มี Tenshukaku มานานปี จนกระทั่งในปี 1931 นายกเทศมนตรีเมืองโอซาก้า นาย Seki ได้ขอรับเงินบริจาคจากชาวเมืองจำนวนหนึ่งล้านห้าแสนเยน (เท่ากับราว 75,000 ล้านเยนในปัจจุบันนี้) มาบูรณะปราสาทใหม่

IMG_6537

ภายในตัวปราสาทมีนิทรรศการแสดงหลักฐาน ภาพเขียน เครื่องแต่งกายโบราณ ฯลฯ ที่เกี่ยวข้องกับประสาทและตระกูลโทโยโทมิ  อยู่

IMG_6544

ส่วนบริเวณรอบๆ ปราสาทจะถูกล้อมด้วยกำแพงหินคอนกรีต คูน้ำ

IMG_6567

และเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ชื่อว่า (Nishinomaru Garden) ที่อยู่ทางป้อมตะวันตก มีต้นซากุระกว่า 600 ต้น และกลายเป็นแหล่งชมซากุระที่โด่งดังในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี โดยเฉพาะฉากด้านหลังของสวนแห่งนี้จะมองเห็นวิวปราสาทได้ชัดเจน

เวลาทำการ: 9.00 – 17.00น.  (เปิดให้เข้าชมได้ถึง 16.30น. ในบางฤดูกาลจะเปิดให้เข้าชมนานกว่าปกติ)

ค่าเข้าชม: 600 เยน / เข้าชมฟรีถ้ามีบัตร Osaka Amazing Pass

วันปิดทำการ: 28 ธันวาคม – 1 มกราคม

วิธีเดินทาง: สถานีที่ใกล้ตัวปราสาทที่สุดคือสถานีรถไฟใต้ดินและ JR Station Morinomiya