Ad
Ad
Ad
Tag

เที่ยวโตเกียว

Browsing

เรื่องและภาพ โดย สวาเก้น

Tokyo_16 Shibuya Overall 03

ชิบูย่า (Shibuya) นั้นได้รับฉายาว่าเป็น Shopping District แห่งโตเกียว และของญี่ปุ่น ที่ผู้คนทั่วโลกรู้จักกันเป็นอย่างดี นอกจากนี้ก็ยังเป็นแหล่งรวมของความบันเทิงหลากหลายชนิด, แฟชั่นเก๋ๆ ใหม่ๆ ที่อัพเดทตลอดเวลา, คาเฟ่เก๋ๆ ที่ชวนแฮงค์เอาท์อย่างยิ่ง, ไปจนถึงร้านอาหารอร่อยๆ ที่แทรกตัวอยู่มากมาย

Tokyo_16 Shibuya Overall 02

Tokyo_16 Shibuya Overall 01

แต่แน่นอนว่ากิจกรรมหลักของผู้คนที่มุ่งมาย่านนี้ก็คือซอกแซกตามซอกซอยและเข้าห้างต่างๆ เพื่อช้อปปิ้งอย่างจุใจ แหล่งช้อปปิ้งแรกที่เป็นขวัญใจสาวๆ ทุกยุคทุกสมัยแล้วก็ถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของย่านนี้นั่นก็คือ Shibuya 109 (www.shibuya109.jp) ที่ตลอดทั้งตึกนั้นเต็มไปด้วยร้านรวงเก๋ๆ ขวัญใจสาวนักช้อปมากมาย ปัจจุบันมีตึกสำหรับผู้ชาย 109 Men (www.109mens.jp) ที่มีของเท่ๆ เก๋ๆ เฉพาะสุภาพบุรุษให้ช้อปกันด้วย, ตึกต่อมานั้นเป็นตึกสารพัดของใช้อย่าง Tokyu Hands (shibuya.tokyu-hands.co.jp) ที่ถือว่าเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดและมีของสาระพัดรูปแบบให้เลือกมากที่สุดตั้งแต่แฟชั่นยันของใช้เลยทีเดียว, อีกตึกที่ดูจะมีแต่แบรนด์เก๋ๆ ร้านเท่ๆ ที่ให้ช้อปได้ทั้งชายหญิงก็คือ PARCO (shibuya.parco.jp) ที่นอกจะจะแต่งห้างให้น่าเดินแล้ว ร้านต่างๆ ยังมีของให้ช้อปที่คัดสรรมาเป็นพิเศษอีกด้วย โดยเฉพาะแบรนด์ดังหลายๆ ร้านที่ไม่เหมือนที่ไหน, นอกจากนี้ก็ยังมี Loft (www.loft.co.jp/shoplist/shibuya) สาขาชิบูย่าที่เต็มไปด้วยของเก๋ๆ มากมาย, หรือ Francfranc (www.francfranc.com) ที่ขายของคล้ายๆ Loft ที่เรียบง่ายแต่มีสีสัน เน้นการใช้งานมากกว่าแฟชั่น, นอกจากนั้นก็แนะนำให้ซอกแซกซอกซอนตามซอยและตามถนนที่จะเต็มไปด้วยร้านค้าแบรนด์ดังมากมาย อาทิ Uniqlo, United Arrow, Batting Ape, Journal Stand ไปจนกระทั่งร้านรองเท้ายอดนิยมอย่าง ABC นั่นเอง

Tokyo_16 Shibuya Overall 04

สีสันของชิบูย่านั้นไม่เคยหลับใหล นี่จึงเป็นแหล่งเอ็นเตอร์เทนของโลกแห่งหนึ่งเลยทีเดียว โดยเฉพาะด้านเสียงเพลงซึ่งที่นี่เป็นที่ตั้งของ Entertainment Complex หลายเจ้า ตั้งแต่เจ้าตลาดชื่อดังอย่าง Tower Record ที่มีตึกจำหน่าย Music Lifestyle เป็นของตัวเอง, หรือแม้แต่ตึก HMV Shibuya อาณาจักรเพลงทั่วโลกอันเก่าแก่และยิ่งใหญ่ประจำย่าน, ไปจนถึงตึกโด่งดังอย่าง Q-FRONT ที่เป็นฐานที่มั่นของ TSUTAYA แถมยังเป็นที่ตั้งของ Starbucks สาขายอดฮิตที่เราสามารถเฝ้ามองการเคลื่อนไหวของสี่แยกที่วุ่นวายที่สุดในโลกได้อย่างสุขใจ

Tokyo_16 Shibuya Overall 05

พูดถึงสี่แยกที่วุ่นวายที่สุดในโลกนั้นก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมที่ใครๆ ก็ต้องแวะมา ซึ่งแยกที่ว่านี้ก็คือ Hachiko Square ที่มีผู้คนพลุกพล่านข้ามถนนกันแทบจะ 24 ชม. เลยทีเดียว แล้วพระเอกแห่งแยกนี้ก็หนีไม่พ้นรูปปั้นของ Hachiko สุนัขผู้ซื่อสัตย์อันโด่งดังของโลกซึ่งมีคนแวะเวียนมาถ่ายรูปคู่กับมันมากมาย และสำหรับพระเอกคนล่าสุดที่เพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อปี ค.ศ.2012 นั้นก็คือตึก Shibuya Hikarie ที่อยู่อีกฝั่งของความพลุกพล่าน ภายในเต็มไปด้วยร้านค้าเก๋ๆ เท่ๆ มากมายไม่แพ้ตัวตึกที่ดูสวยล้ำสมัย และตึกนี้เองคือตึกแรกที่เสร็จสมบูรณ์อันเป็นโฉมของภาพลักษณ์ใหม่แห่ง Shibuya Station ที่โตเกียวมีแผนจะปรับโฉมสถานีรถไฟและสิ่งแวดล้อมโดยรอบใหม่ (รวมไปถึงผุดตึกสำนักงานและแหล่งช้อปปิ้งล้ำๆ อีกหลายตึก) ที่คาดว่าหน้าตาของชิบูยาโฉมใหม่อันล้ำสมัยจะเสร็จราวๆ ปี 2020 เพื่อต้อนรับโอลิมปิก 2020 ที่โตเกียวเป็นเจ้าภาพนั่นเอง

Tokyo_16 Shibuya Overall 07

Tokyo_16 Shibuya Overall 06

 

ชิบูยา (Shibuya)

ที่ตั้ง : เขตชิบูยา, โตเกียว

วิธีเดินทาง :

>วิธีที่ 1 : นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย G-Ginza Line (สีเหลือทอง), สาย F-Fukutoshin Line (สีน้ำตาลแดง), สาย Z-Hanzomon Line (สีม่วง) ลงสถานี G01/F16/Z01-Shibuya

>วิธีที่ 2 : นั่งรถไฟ JR สาย Yamanote Line (สายวงกลม-สีเขียว) ลงสถานี Shibuya

>วิธีที่ 2 : นั่งรถไฟ Tokyu Line สาย Tokyu Den-en-toshi Line (DT), สาย Tokyo Toyoko Line (TY) ลงสถานี Shibuya (ต้นสาย)

 

หาตั๋วเครื่องบินราคาถูกคลิกที่นี่

ชอบกด Like ใช่กด Share ^-^

เรื่องและภาพโดย สวาเก้น

Tokyo_15 Ginza Overall 01

ย่านกินซ่า กลางกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น นั้นถูกบันทึกไว้ว่าเป็นหนึ่งในแหล่งช้อปปิ้งอันหรูหรามีระดับมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก (one of the most luxurious shopping districts in the world) บริเวณโดยรอบย่านนั้นประกอบไปด้วยห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ชื่อดัง (และไฮด์เอ็น) มากมาย แถมยังเป็นที่ตั้งของ Brand Name Shop & Flagship Store ของสินค้าพรีเมี่ยมระดับโลกอีกมากมาย แล้วก็ยังมีคาเฟ่เก๋ๆ ไปจนถึงคาเฟ่หรูหรา ตลอดจนร้านอาหารอร่อยๆ ในแบบฉบับญี่ปุ่นดั้งเดิมแท้ๆ ซ่อนตัวอยู่ในย่านนี้อีกมากมายด้วย

Tokyo_15 Ginza Overall 02 Tokyo_15 Ginza Overall 03 Tokyo_15 Ginza Overall 04

แหล่งช้อปปิ้งห้างดังเลื่องชื่อนั้นอันดับแรกเห็นจะเป็น Matsuya (www.matsuya.com/foreigner/en) สาขากินซ่าที่โดดเด่นด้วยตัวตึกที่มีกระจกล้อมรอบอันทันสมัยและเป็นหนึ่งในอาคารที่สะท้อนถึงย่านกินซ่าซึ่งปรากฏในภาพถ่ายทั่วโลก แถมยังเป็นสถานที่ที่คนนิยมมาถ่ายรูปในย่านกินซ่ามากที่สุดอีกด้วย ภายในห้างนั้นมีสินค้าคุณภาพสูงที่คัดสรรเป็นพิเศษมากมายเพื่อจับกลุ่มลูกค้าในตลาดบนโดยเฉพาะ, ตึกต่อมาที่ดังไม่แพ้กันก็คือ Ginza Wako (www.wako.co.jp) ที่ตั้งอยู่บนหัวถนนของสี่แยกกินซ่า ซึ่งจุดเด่นของอาคารนี้ก็คือความเก่าแก่คลาสสิกแบบห้างสไตล์ยุโรปที่มีเอกลักษณ์อยู่ตรงนาฬิกาด้านบน ห้างอันเก่าแก่นี้ยังคงอนุรักษ์ตึกไว้อย่างดีเยี่ยม แต่ภายในนั้นมีสินค้าระดับพรีเมี่ยมให้เลือกหลากหลายแบรนด์เช่นกัน แล้วตึกนี้ก็เป็นหนึ่งสัญลักษณ์แห่งกินซ่าที่ปรากฏไปทั่วโลกและมีคนนิยมมาถ่ายรูปไม่แพ้กันอีกด้วย

 

Tokyo_15 Ginza Overall 05 Tokyo_15 Ginza Overall 06

อีกห้างดังของย่านนี้ก็คือ Mitsukoshi (www.mitsukoshi.co.jp) ห้างเก่าแก่ประจำย่านที่มีสินค้าไฮด์เอ็นด์จำหน่ายมากมาย, แต่ถ้าหากเดินออกมาหน่อยก็จะพบอีกห้างที่ก็ขึ้นชื่ออย่าง Printemps (www.printemps-ginza.co.jp) ที่ไม่ได้เน้นตลาดไฮด์เอ็นด์นักแต่เน้นความเก๋เสียมากกว่า และที่นี่เองก็คือที่ตั้งของ Uniqlo Marche (www.uniqlo.com/marche) ที่ตั้งอยู่บนชั้น 6-7 ซึ่งถือเป็นร้านขายเสื้อผ้าแบบ multi-brand ร้านแรกในไลน์ Uniqlo ที่มีตั้งแต่แบรนด์ Uniqlo, GU, PLST, Comptoir des Cotonniers และ Princesse Tam Tam อ้อ! แล้วก็ต้องขอบอกว่า Uniqlo Marche นั้นเป็นแหล่งช้อปปิ้งของสาวๆ โดยเฉพาะ เพราะ 90% เป็นสิ้นค้าผู้หญิง

Tokyo_15 Ginza Overall 07

นอกจากนี้ที่นี่ก็ยังเป็นแหล่งรวบรวมช้อปของแบรนด์ดังมากมายตั้งแต่ Swarovski, Prada, Louis Vuitton, Chanel, Cartier, หรือตึกสุดเซ็กซี่อย่าง Abercrombie & Fitch, ร้าน Apple อันโดดเด่น, ไปจนถึง Uniqlo สาขาหลักสาขาใหญ่ที่จำหน่ายเสื้อผ้าที่แบรนด์ภายใต้ Uniqlo อีกด้วย

Tokyo_15 Ginza Overall 08 Tokyo_15 Ginza Overall 09

 

กินซ่า (Ginza)

ที่ตั้ง : เขตชูโอะ, โตเกียว

วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย M-Marunouchi Line (สีแดง), H-Hibiya Line (สีเทา), G-Ginza Line (สีเหลือง) ลงสถานี M16/H08/G09-Ginza

Gundam Cafe6

Gundam Cafe & Bar เปิดเป็นที่แรกที่ Akihabara ให้บริการของว่าง ของคาว ของหวาน และเครื่องดื่มที่สร้างสรรค์ขึ้นมาในตีมกันดั้ม เพื่อเอาใจสาวกการ์ตูนดังเรื่องนี้โดยเฉพาะ ทั้งการตกแต่งร้านด้วยหุ่นยนต์และตกแต่งหน้าตาอาหารและเครื่องดื่มในสไตล์กันดั่ม ทำให้ร้านนี้กลายเป็นตำนานคู่โตเกียวที่ใครไปเที่ยวแล้วเป็นต้องแวะไปลอง

Gundam Café10

Gundam Café3

 

หลังจากประสบความสำเร็จจากสาขาแรก ที่มีลูกค้ามาต่อคิวรอใช้บริการ ทำให้เกิด Gundam Cafe สาขาที่สองขึ้น คือ Gundam Cafe & Shop @Odaiba Diver City Plaza ที่มี singnature เป็นเจ้าหุ่นกันดั้มตัวเท่าขนาดจริงยื่นเด่นอยู่หน้าห่างกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตติดอันดับไปในพริบตา

แห่งที่สามที่เปิดมาเอาใจสาวกกันดั่มคือ Gundam Cafe @Tokyo Station อยู่ในพื้นที่ First Avenue Area ที่บริการอาหารและเครื่องดื่มเหมือนอีกสองสาขา

สาวๆ Gundam Ladies ที่รอต้อนรับลูกค้า

Gundam Café4

 

รูปด้านในร้านที่สาขา Akihabara

IMG_0355

 

Gundam Café1

มุมแคชเชียร์

Gundam Café11

เมนูอาหารเหมือนกำลังอ่านการ์ตูนอยู่เลย
Gundam Cafe7

อาหารที่สั่งมาหน้าตาจะเป็นหุ่นยนต์ทั้งหมด

Gundam Cafe10 Gundam Cafe9 Gundam Cafe8

รวมถึงฟองนมด้วย

Gundam Cafe5

Gundam Cafe & Shop @Odaiba Diver City Plaza

ย้ายไปที่ Gundam Cafe & Shop ที่ Odaiba กันดั้มตัวนี้เป็น First Gundam หรือ RX-78-2 ขนาดเท่าของจริง (ภาษาพลาโมเรียก 1/1) ตั้งอยู่ที่หน้าห้าง DiverCity เจ้าตัวนี้ไม่ได้ยืนอยู่เฉยๆ แต่มันสามารถหันหัวไปมา โชว์แสงสีเสียงและปล่อยควันได้

Gundam Café2  Gundam Café

Gundam1

Gundam2 Gundam3

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Gundam Cafe & Bar @Akihabara

วิธีเดินทาง สถานี JR Akihabara ออกทาง Electric Town Exit  (1 นาที)
เปิดบริการทุกวัน

20100709_english_10

GundamCafe13

 

Gundam Cafe & Shop @Odaiba Diver City Plaza

นั่งรถไฟมาที่ Daiba แล้วเดินต่อมาทาง Fuji TV จนถึง DiverCity

Gundam Front Tokyo

Photo credit: Kamonon Khinimarn

ตามถนนหนทางในกรุงโตเกียวจะเห็นดอกซากุระทยอยบานเป็นสีชมพูสวยงามไปทั้งเมือง ภาพเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2014 โดยคุณ Kamonon Khinimarn ที่เอื้อเฟื้อภาพดอกซากุระสวยๆ ให้ทางทีมงาน “รู้จริงญี่ปุ่น” เพื่อนๆ อย่าลืมวางแผนไปชมซากุระปีนี้กันนะคะ

อ่าน สถานที่ชมซากุระยอดฮิตของกรุงโตเกียว  และเช็ค ปฏิทินเทศกาลดอกซากุระบานประจำปี 2014 เพื่อประกอบการวางแผนเดินทาง

 

SakuraByM SakuraByM1 SakuraByM2

เรื่องและภาพโดย สวาเก้น

อะกิฮาบาระ (Akihabara) หรือที่เรียกสั้นๆ ว่าอะกิบะ (Akiba) นั้น เป็นย่านที่เต็มไปด้วยร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าตลอดจนเทคโนโลยีอันทันสมัยมากมาย ปัจจุบันย่านนี้ขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แล้ว ที่นี่ยังเป็นแหล่งคอมพิวเตอร์, กล้องถ่ายรูป, เกมส์, อนิเมชั่น, ฟิกเกอร์ โมเดล (หุ่นประกอบ), การ์ตูน ตลอดจนเป็นสวรรค์ของเหล่าบรรดาโอตาคุทั้งหลายอีกด้วย

Tokyo_12 Akihabara 01

สำหรับห้างชื่อดังยอดนิยมที่สุดของย่านนี้เห็นจะเป็น Yodobashi (www.yodobashi-akiba.com) ที่มีสินค้าจำหน่ายครบภายในตึกเดียว ตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าล้ำๆ, กล้อง, เครื่องเสียง, เกมส์, ของเล่น, โทรศัพท์มือถือ, คอมพิวเตอร์, อุปกรณ์เสริมต่างๆ, ไปจนถึงเครื่องสำอางสำหรับสาวๆ ซึ่ง Yodobashi ที่อะกิฮาบาระนี้มีถึง 8 ชั้น ให้ช้อปกันอย่างจุใจ และเป็นเสมือนแลนด์มาร์กของย่านไปในตัวด้วย ที่สำคัญหนึ่งในลูกค้าคนสำคัญของที่นี่ก็คือคนไทยนี่เองซึ่งเสียงประชาสัมพันธ์ภายในห้างนั้นยังมีเวอร์ชั่นภาษาไทยอีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีร้านดังๆ มากมายซึ่งบางร้านยังขายสินค้าปลอดภาษีอีกด้วย ร้านดังในย่านนี้ก็ได้แก่ Laox (www.laox.co.jp), sofmap (www.sofmap.com), เป็นต้น แต่สำหรับเหล่าโอตาคุบรรดาร้านรวงที่เกียวกับอนิเมชั่นและการ์ตูนต่างๆ นั้นดูจะเป็นเหมือนแหล่งแฮงค์เอาท์ของพวกเขาเป็นอย่างดีทีเดียว อาทิ Radio Kaikan (www.radiokaikan.jp) ตึก 9 ชั้นที่เต็มไปด้วยฟิกเกอร์การ์ตูนมากมาย, Kotobukiya (main.kotobukiya.co.jp) ร้านจำหน่ายฟิกเกอร์และสารพัดข้าวของจากการ์ตูนชื่อดัง, Tokyo Anime Center (www.animecenter.jp) ศูนย์กลางของอนิเมะญี่ปุ่นที่มีเรื่องราวใหม่ๆ มา update เสมอๆ, animate (www.animate.co.jp) จำหน่ายทุกสิ่งทุกอย่างที่เกียวกับอนิเมะ เป็นต้น

สำหรับสาวกกันดั้มที่นี่ก็ยังมี Gundum Café (g-cafe.jp) คาเฟ่เก๋ๆ และกาแฟคุณภาพเยี่ยมที่แต่งหน้าฟองนมด้วยสัญลักษณ์กันดั้ม, อีกสาวกที่มีอะกิฮาบาระเป็นฐานทัพก็คือเหล่าแฟนคลับของ AKB48 ซึ่งที่นี่เป็นที่ตั้งของ AKB48 Café & Shop (akb48cafeshops.com/akihabara) ให้บรรดาแฟนคลับทั้งหลายได้แฮงค์เอาท์กันอีกด้วยGundam Cafe6

อะกิฮาบาระ (Akihabara)

ที่ตั้ง : ย่านอะกิฮาบาระ, เขตชิโยดะ, โตเกียว

เปิด-ปิด : ทุกวัน 10.00-22.00 น. (เวลาโดยเฉลี่ย / เวลาปิดเปิดที่แน่นอนขึ้นอยู่กับแต่ละร้านค้าอีกที)

วิธีเดินทาง :

>วิธีที่ 1 : นั่งรถไฟ JR Line สายวงกลม Yamanote Line (สีเขียว), สาย Keihin-Tohoku Line (สายสีฟ้า) ลงสถานี Akihabara

>วิธีที่ 2 : นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย H-Hibiya Line (สีเทา) ลงสถานี H15-Akihabara

 

 

เรื่องและภาพ โดย สวาเก้น

Tokyo_10 Ameyoko Street Ueno 01 Tokyo_10 Ameyoko Street Ueno 09

อะเมะโยโกะ (Ameyoko) ถนนสายช้อปปิ้งยอดฮิตแห่งย่านอุเอโนะ (Ueno) กลางโตเกียว  นี้ทอดยาวใต้แนวรางรถไฟตั้งแต่สถานี JR Ueno ไปจนถึงสถานี JR Okachimachi ที่อยู่ถัดไป ชื่อถนนสายนี้นั้นเป็นคำย่อที่มาจากคำว่า อะเมะยะ โยโกะโชว (Ameya Yokocho) ที่แปลกว่าตรอกร้านลูกกวาดอเมริกัน ซึ่งคำว่า อะเมะ เป็นคำเรียกที่ย่อมาจาก America แล้วที่เรียกอย่างนี้ก็เพราะว่าบริเวณนี้น่ะเมื่อก่อนเต็มไปด้วยร้านขายลูกวาดตลอดจนข้าวของที่มาจากอเมริกันหลังจากช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 นั่นเอง

Tokyo_10 Ameyoko Street Ueno 02 Tokyo_10 Ameyoko Street Ueno 05

ปัจจุบันอะเมะโยโกะนั้นเต็มไปด้วยร้านรวงสารพัดชนิดกว่า 400 ร้าน (ที่แทบไม่มีร้านลูกกวาดเหลือให้เห็นเลย) ซึ่งในย่านช้อปปิ้งแห่งนี้จะมีตั้งแต่ตลาดขายของแห้งไปจนถึงของสด, ร้านผลไม้, ร้านของกินอร่อยๆ หลากเมนู, แหล่งช้อปปิ้งแฟชั่นเก๋ๆ ไปจนถึงเสื้อผ้ามาตรฐานสำหรับผู้ใหญ่, ร้านขายเสื้อผ้าตลอดจนอุปกรณ์กีฬาราคาถูก, ร้านขายกระเป๋าตั้งแต่คุณภาพพอทน (สำหรับคนที่อยากได้กระเป๋าเพิ่มสำหรับขนของกลับ) ไปจนถึงกระเป๋าเก๋ๆ, แหล่งขายนาฬิกา, ร้านแบรนด์เนมมือสอง, ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า, ร้านขายขนมของฝาก, ร้านปาจิงโกะ, โรงแรม, ห้างดังอย่าง 0101 (marui), ร้านรองเท้ายอดฮิตอย่าง ABC ที่มีกว่า 5 ร้านในย่านนี้, และอีกสารพัดอย่าง

Tokyo_10 Ameyoko Street Ueno 03 Tokyo_10 Ameyoko Street Ueno 04

อ้อ! แล้วก็ต้องขอบอกว่าใครที่อยากซื้อรองเท้าใส่ล่ะก็นี่เป็นแหล่งซื้อรองเท้าที่ดีที่สุดในโตเกียวเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะมีร้านดังให้เลือกนับสิบร้าน มีแบรนด์รองเท้าดังๆ ครบ มีรุ่นใหม่ล่าสุดเหมือนๆ กับย่านอื่นๆ แล้ว ก็ยังมีร้านค้าย่อยๆ ที่อาจได้รองเท้าในแบบเดียวกันแต่ราคาถูกกว่า ไปจนถึงรองเท้าเก๋ตกรุ่นที่นำมาลดราคากันแบบถูกสุดๆ นั่นยังไม่นับรวมร้องเท้ากีฬาแบรนด์ดังต่างๆ ที่ขายในกระบะแบบราคาย่อมเยา และข้อดีที่ว่าแต่ละร้านนั้นอยู่ไม่ไกลกันนักเหมาะอย่างยิ่งที่จะเดินซอกแซกสืบราคาก่อนที่จะตัดสินใจซื้ออีกด้วย

Tokyo_10 Ameyoko Street Ueno 06 Tokyo_10 Ameyoko Street Ueno 07 Tokyo_10 Ameyoko Street Ueno 08

 

Ameyoko

ที่ตั้ง : สถานี JR Ueno ไปจนถึงสถานี JR Okachimachi, ย่านอุเอโนะ, เขตไทโตะ, โตเกียว

เปิด-ปิด : ทุกวัน 10.00-22.00 น. (เวลาโดยเฉลี่ย / การเปิดปิดขึ้นอยู่กับแต่ละร้านค้า / ร้านอาหาร, ร้านเกม, ร้านค้าบางประเภท อาจปิดดึกมากหรือเปิดตลอด 24 ชม.)

วิธีเดินทาง :

>วิธีที่ 1 : นั่งรถไฟ JR Line สายวงกลม Yamanote Line (สีเขียว), สาย Keihin-Tohoku Line (สายสีฟ้า) ลงสถานี Ueno หรือ Okachimachi / สำหรับสถานี Ueno ออกทาง Central Gate, สถานี Okachimachi ออกทาง North Exit

>วิธีที่ 2 : นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย G-Ginza Line (สีส้ม), H-Hibiya Line (สีเทา) ลงสถานี G16/H17-Ueno ทางออก 5a, 5b, 6 (Exit 5a, 5b, 6)

>วิธีที่ 3 : นั่งรถไฟใต้ดิน Toei Line สาย E-Oedo Line (สีชมพู) ลงสถานี E09-Ueno-okachimachi ทางออก A5, A7 (Exit A5, A7)

 

เรื่องและภาพ โดย สวาเก้น

Tokyo_09 Ueno Park 03

สวนอุเอโนะ (Ueno Park) นั้นถือเป็นสวนสาธารณะแห่งแรกของญี่ปุ่นที่เปิดให้บริการเป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1873 ซึ่งก่อนหน้านั้นพื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นของวัดคันเอจิ (Kaneiji Temple) มาก่อน ปัจจุบันกลายเป็นสวนสาธารณะอันเก่าแก่ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าสวนแห่งนี้จะตั้งอยู่ใจกลางเมืองใหญ่อย่างโตเกียว แวดล้อมไปด้วยตึกสูงมากมาย แต่ทว่าเมื่อก้าวเข้าสู่สวนอุเอโนะแล้วคุณจะรู้สึกเหมือนว่าก้าวเข้าสู่อีกโลกหนึ่งเลยทีเดียว

Tokyo_09 Ueno Park 01

Tokyo_09 Ueno Park 07

Tokyo_09 Ueno Park 10

ภายในสวนอุเอโนะนั้นนอกจากจะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจหลากหลายมุมแล้ว ภายในยังมีสถานที่ท่องเที่ยวและศาสนสถานที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ วัดคันเอจิ (Kaneiji Temple) อดีตวัดเก่าแก่อันยิ่งใหญ่ที่หลงเหลือจากสงครามในยุคเอโดะ มรดกอันสำคัญก็ได้แก่เจดีย์ 5 ชั้น, ศาสนอาคารหลัก (Kaneiji’ main hall), วัดคิโยมิซุ คานนอน (Kiyomizu Kannon Temple) อันเป็นส่วนหนึ่งของวัดคันเอจิ, ศาลเจ้าโทโชกุ (Toshogu Shrine) อันเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1616

Tokyo_09 Ueno Park 04

Tokyo_09 Ueno Park 02

โดยรอบสวนอุเอโนะนั้นยังเต็มไปด้วยแหล่งศึกษาหาความรู้หลายแหล่งตั้งแต่เรื่องวิทยาศาสตร์ไปจนกระทั่งศิลปวัฒนธรรม เริ่มตั้งแต่ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติโตเกียว (Tokyo National Museum) พิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดและใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ภายในเต็มไปด้วยโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าของประเทศจัดแสดงไว้มากมายกว่า 5 ชั้น, พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (National Science Museum) จัดแสดงเรื่องวิทยาศาสตร์และธรรมชาติด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย, พิพิธภัณฑ์ศิลปะกรุงโตเกียว (Tokyo Metropolitan Art Museum) จัดแสดงศิลปะร่วมสมัยที่น่าสนใจกว่า 6 แกลเลอร์รี่, พิพิธภัฑณ์ศิลปะแห่งโลกตะวันตกแห่งชาติ (National Museum of Western Art) จัดแสดงงานศิลปะจากฝั่งยุโรปที่มีตั้งแต่คอเล็กชั่นเก่าแก่ถาวรไปจนถึงงานศิลปะที่หมุนเวียนมาจัดแสดงจากพิพิธภัณฑ์มีชื่อเสียงของโลก

Tokyo_09 Ueno Park 06  Tokyo_09 Ueno Park 08 Tokyo_09 Ueno Park 09

นอกจากนี้สวนอุเอโนะยังเต็มไปด้วยแหล่งพักผ่อนหย่อนใจมากมายหลายมุม อาทิ สวนสัตว์อุเอโนะ (Ueno Zoo) ซึ่งเป็นสวนสัตว์เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่นที่เปิดบริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1882, บึงซิโนะบาซุ (hinobazu Pond) ที่มีเรือพายและเรือถีบให้เราชมสวนสวยๆ โดยเฉพาะหน้าซากุระที่บริเวณนี้เป็นสถานที่ยอดฮิตทีเดียว, คาเฟ่เก๋ๆ รอบลานกว้างกลางสวนอุเอโนะ, ถนนสายซากุระที่มุ่งสู่ลานกว้างกลางสวนซึ่งในฤดูที่ซากุระเบ่งบานนั้นสถานที่แห่งนี้จะเต็มไปด้วยผู้คนมากมายและเป็นหนึ่งในสถานที่ยอดฮิตที่มีคนมาร่วมฉลองฤดูดอกไม้เบ่งบานมากที่สุดอีกด้วย แถมบริเวณตลอดแนวถนนและลานกว้างนั้นจะมีการแสดงริมถนน (Street Performance) หลากรูปแบบมาโชว์ความสามารถพิเศษให้ชมกันฟรีๆ กันทุกวันอีกด้วย

 

Tokyo_09 Ueno Park 05

Ueno Park

ที่ตั้ง : ย่านอุเอโนะ, เขตไทโตะ, โตเกียว

เปิด-ปิด : ทุกวัน 06.00-22.00 น. (เวลาโดยเฉลี่ย / การเปิด-ปิดของสถานที่ย่อยนั้นไม่เหมือนกัน กรุณาเช็ครายละเอียดตามแต่ละสถานที่อีกครั้ง)

วิธีเดินทาง :

>วิธีที่ 1 : นั่งรถไฟ JR Line สายวงกลม Yamanote Line (สีเขียว), สาย Keihin-Tohoku Line (สายสีฟ้า) ลงสถานี Ueno  ออกทาง Park Gate (เข้าสู่กลางสวนสาธารณะ)

>วิธีที่ 2 : นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย G-Ginza Line (สีส้ม), H-Hibiya Line (สีเทา) ลงสถานี G16/H17-Ueno ทางออก  6 (Exit 6)

>วิธีที่ 3 : นั่งรถไฟสาย Keisei Line ลงสถานี Keisei-Ueno (ปลายทาง) ออกทางออกหลัก