แม้วัดชิเท็นโนจิ (四天王寺 / Shitennoji Temple) จะดูเหมือนใหม่ แต่วันชื่อดังของเมืองโอซาก้าแห่งนี้มีอายุกว่า 1,400 ปี และเป็นอารามพุทธแห่งแรกของประเทศญี่ปุ่นที่ได้มีการบันทึกไว้ และถือเป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 593 โดยเจ้าชายโชโตคุ (Prince Shotoku) ในสมัยจักรพรรดินีซูอิโกะ (Empress Suiko)
ที่ตั้ง : 1-11-18 Shitennoji, Tennoji-ku, Osaka City, Osaka
เวลาให้บริการ :
- เม.ย.-ก.ย. 08.30-16.30 น.
- ต.ค.-มี.ค. 08.30-16.00 น. (เฉพาะส่วนพิพิธภัณฑ์ Hobutsu-kan ปิดวันจันทร์)
ติดต่อ : 06-6771-0066
เว็บไซต์ : www.shitennoji.or.jp (ภาษาญี่ปุ่น)
ค่าผ่านประตู :
รอบวัดภายนอกไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
- โซนมหาวิหาร (中心伽藍/Chushingaran) ผู้ใหญ่ ¥300 / นักเรียน-นักศึกษา ¥200 / เด็ก-นักเรียนมัธยมต้น ฟรี
- โซนพิพิธภัณฑ์โบราณวัตถุ (宝物館/Takaramonokan) ผู้ใหญ่ ¥500 / นักเรียน-นักศึกษา ¥300 / เด็ก-นักเรียนมัธยมต้น ฟรี
- โซนสวนญี่ปุ่น (庭園/Teien) ผู้ใหญ่ ¥300 / นักเรียน-นักศึกษา ¥200 / เด็ก-นักเรียนมัธยมต้น ¥200
วิธีเดินทาง :
- JR West : นั่งรถไฟสาย JR Osaka Loop Line ลงสถานี Tennoji
- Osaka Subway : นั่งรถไฟใต้ดินสาย T–Tanimachi Line (สีม่วง) ลงสถานี T26–Shitennoji-mae Yuhigaoka
- Osaka Subway : นั่งรถไฟใต้ดินสาย M-Midosuji Line (สีแดง) หรือ T–Tanimachi Line (สีม่วง) ลงสถานี M23,T27–Tennoji
แรกเริ่มนั้นเจ้าชายโชโตคุต้องการสร้างวัดเพื่อประดิษฐานพระโพธิสัตว์ 4 องค์ (四天王-Shitenno แปลว่า 4 กษัตริย์แห่งสวรรค์) เพราะพระองค์ได้ขอพรให้ชนะสงครามเพื่อจะได้นำพระพุทธศาสนาเข้ามาเผยแพร่ในประเทศญี่ปุ่น
เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระโพธิสัตว์ทั้ง 4 เจ้าชายโชโตคุทรงสร้างสถาบันขึ้นมา 4 สถาบัน (四箇院/Shika-in) เพื่อใช้เป็นระบบสวัสดิการสาธารณะเพื่อสังคมให้แก่ประชาชน ให้เกิดขึ้นพร้อมกันในยุคนั้นด้วย และเป็นพื้นฐานระบบสวัสดิการสาธารณะมาจนถึงทุกวันนี้ สถาบันทั้ง 4 ได้แก่
- สถาบันทางศาสนาและการศึกษา
- สถาบันสวัสดิการสังคม
- โรงพยาบาล
- เภสัชสถาน
ภายในอาณาเขตมหาวิหารชั้นในของวัดนั้นประกอบไปด้วย
- เจดีย์ห้าชั้นแบบญี่ปุ่น (五重塔- Gojunoto)
- วิหารทองคำ (金堂-Kondo) ที่ประดิษฐานรูปเคารพของพระโพธิสัตว์เนียวไร (Nyorai Kannon)
- หอธรรม (Kodo)
โดยทั้งหมดเรียงตัวเป็นเส้นตรงจากทิศเหนือสู่ทิศใต้และโอบล้อมด้วยกำแพงระเบียงทางเดินสามด้านที่มีประตูแต่ละทิศ 3 ประตู คือ ประตูเทพ (ทิศใต้), ประตูทิศตะวันตก, ประตูทิศตะวันออก
การสร้างวัดแบบนี้ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศจีน และวัดแห่งนี้ถือว่าเป็นต้นแบบสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของญี่ปุ่นเลยทีเดียว
ในเรื่องการก่อสร้างนั้นกระทำโดยกลุ่มวิศวกรที่เจ้าชายโชโตคุได้ซื้อตัวมาจากอาณาจักรแพ็กเจ (Baekje) ของเกาหลีเพื่อมาสร้างวัดพุทธแห่งนี้ขึ้น หลังจากนั้นพุทธศาสนาก็เริ่มเจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆในญี่ปุ่น รวมถึงเป็นจุดเริ่มแรกที่วัฒนธรรมจีนเข้ามามีอิทธิพลต่อศิลปวัฒนธรรมรวมถึงวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นและขยายตัวขึ้นเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้
สำหรับตัววัดในปัจจุบันนั้นไม่ใช่อาคารเก่าแก่ดั้งเดิม เพราะมันถูกทำลายจากสงครามจนไม่เหลือซากไปหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งวัดในปัจจุบันนั้นได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ตามโครงสร้างและสถาปัตยกรรมดั้งเดิมทุกประการ โดยการบูรณะครั้งล่าสุดสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี ค.ศ.1963 นี้เอง
ทุกวันที่ 22 เมษายน ของทุกปี จะมีการจัดเทศกาล Shoryo-e Bugaku Daihoyo อันเป็นเทศกาลประจำปีของวัดชิเท็นโนจิ (Shitennoji) ซึ่งวันนี้เป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายโชโตคุ (Prince Shotoku) โดยเทศกาลในวันนั้นจะมีการทำพิธีสงฆ์พร้อมกับการร่ายรำกากะคุ (雅楽/Gagaku) ซึ่งถือเป็นการร่ายรำโบราณอันเป็นการแสดงชั้นสูงในราชสำนัก ซึ่งการร่ายรำนี้ยังถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นอีกด้วย
หาตั๋วเครื่องบินราคาถูกคลิกที่นี่
|